01 May ไร่ชาลุงเดช 150 บาทต่อคน ก็นอนได้ จิบชากลางหมอก
:: กำแบงค์ร้อย มานอน ไร่ชาลุงเดช จ.เชียงใหม่ เก็บชากลางสายหมอก ::
” ไร่ชาลุงเดช ” เราเห็นรูปจากนักท่องเที่ยวหลายคนมาถ่ายรูป และเช็คอินที่นี่ รูปส่วนใหญ่จะเป็น “แวะมาเที่ยว” ซะส่วนใหญ่ แต่ไม่ได้มานอนค้างคืน
ซึ่งตอนแรกเราก็จะแค่แวะไป แต่โรงแรมที่เรากะจะจองมันเต็มซะนี่ เลยเอาเป็นว่า โทรถามลุงเดชแกเลยแล้วกัน ว่า คืนนี้…ถ้าพวกหนูไปนอนจะมีที่ให้นอนมั้ย?
ปรากฏว่า “มี…” แต่ “อยากมานอนก็มาเลย ไม่ต้องโอนเงินมัดจำห้องนะ จดชื่อไว้ให้แล้ว”
… นึกในใจ … คืนนี้จะได้นอนจริงมั้ยเน้อออออ นี่คือความคิดก่อนที่จะไป แต่เอาเป็นว่า ไปแล้วยังประทับใจไม่ลืมเลย
อัลบั้มนี้ถ่ายด้วย Fujifilm XH1 และ XT3 คู่กับเลนส์ 10-24 , 16-55 และ 56 1.2
รายละเอียดห้องพัก : มีหลายแบบ
1.บ้านทรง A (มีแค่ 2 หลัง) คืนละ 500 บาท นอนได้ 2 คน #คนละ250 ใครมาเป็นคู่ก็มาหลังนี้เลย
2.ห้องแถว คืนละ 600 บาท นอนได้ 4 คน #คนละ150 (เรานอนแบบนี้)
3.เต๊นท์ 250 บาท นอนได้ 2 คน #คนละ125
ทุกแบบไม่มีห้องน้ำในตัว (แต่มีน้ำอุ่นในห้องน้ำบางห้องให้ค่ะ) มีไฟฟ้า แต่ไม่มีแอร์ เพราะอากาศเย็นสบายมาก
**โทรจอง 081-163-3765 หรือ facebook ไร่ชาลุงเดช อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ **
มาดูรูปห้องพักกัน >>
บ้านทรง A (ไม่ได้ถ่ายด้านในมานะคะ วันนั้นมีคนเข้าพักเลยขอไม่กวนเค้าแล้วกันค่ะ)
‘
แบบห้องแถว
รายละเอียดข้อมูลหลักๆ ก็อยู่ในข้างบนครบหมดแล้ว
ที่นี้เราขอเราในมุมมอง และ ความรู้สึกของเราล้วนๆ ตั้งแต่เริ่มมาถึงแล้วกันนะคะ <3
ในจังหวะที่เราเดินทางมาถึง ไร่ชาลุงเดช เป็นช่วงเวลาเย็นๆ เริ่มโพล้เพล้ พระอาทิตย์ก็เริ่มตกหลังเขาไป
ลุงเดชพาเราเดินดูในส่วนของ พื้นที่ส่วนกลาง และห้องนอนแบบห้องแถวที่คุณลุงให้จดชื่อจองโดยไม่ต้องโอนเงินล่วงหน้าไว้
บรรยากาศข้างในส่วนกลางจะเป็นพื้นที่โล่ง ทำด้วยไม้ นั่งสบาย สะอาดมาก และให้ทุกคนถอดรองเท้า ทำตัวเหมือนอยู่บ้าน
และพาไปดูห้องน้ำ ที่เดินไปไม่ไกลจากที่พักมาก
“อาบน้ำอุ่นรึเปล่า ห้องน้ำที่มีน้ำอุ่นอยู่ห้องนี้นะ” …
ลุงเดชรู้ได้ไง ว่าหนูติดน้ำอุ่น 555
หลังจากเราเก็บของเข้าห้องพักแล้ว ก็มานั่งชิวที่ริมระเบียงชั้นบน เสพบรรยากาศแบบไม่รีบร้อน
สักพักลุงเดชก็ถามว่า “เอาชามั้ย” แล้วแกก็เดินมาพร้อมกับชาร้อนๆ มาเสิร์ฟให้เราถึงโต๊ะ
แถมช่วง 2ทุ่มกว่า แกก็บอกว่า “ดึกแล้ว ลุงไปนอน แต่ถ้าอยากกินชาก็มาเติมเอาตรงนี้ได้นะ”
พร้อมชี้บอกทุกอย่าง ว่าขั้นตอนทำชาร้อนต้องทำยังไง แก้วชามจาน มาม่า อยู่ตรงไหน
เหมือนมานอนบ้านญาติมากกว่า การเพิ่งเจอกันครั้งแรก
คืนนั้นเราก็นั่งถ่ายดาวหน้าห้องพักกัน เห็นดาวเหนือชัดเจนเลย
ตื่นเช้ามาประมาณ 6.00 – 6.30 พระอาทิตย์ขึ้นแต่ยังหลบอยู่หลังเขา
เราเดินออกมาจากห้องพัก แล้วก็เจอหมอกฟุ้ง เหนือไร่ชา สวยงามมาก
เลยปลุกทุกคน แต่งตัว ออกมาดูวิวกัน
บรรยากาศจากตอนเย็น กับตอนเช้า สวยงามคนละแบบเลย
ขอบคุณที่วันนั้น ห้องพักว่าง ทำให้เราได้เจอวิวแบบนี้
⏱ช่วงเวลาที่สวยที่สุด คือ 6.30 – 9.00 เป็นช่วงที่พระอาทิตย์เริ่มสูงพ้นเขา แสงจะกระเจิงกับสายหมอกสวยงาม
แต่พอพ้น 9.00 น. ไปแล้ว หมอกก็จะหายไปหมดเลย ดังนั้นใครที่จะมา เราก็แนะนำว่ามาตอนเช้า หรือมานอนพักสักคืน คือ คำตอบที่ดีที่สุดของที่นี่
มาดูรูปบรรยากาศตอนเช้ากันรัวๆ เพราะว่ารูปเยอะมากจริงๆ
ลุงเดชพูดไม่ค่อยเก่ง (แต่รักหมดใจ💚) เพราะว่าลุงเดชเปิดที่นี่เพื่อตั้งใจทำชา🌿 แต่ตอนหลังนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเช็คอินเยอะขึ้น จนต้องเริ่มเปิดเป็นร้านอาหารและที่พักเพื่อดูแล🥘🍲 แต่แกไม่ได้มองว่าจะทำเป็นธุรกิจอะไร เพราะหลักๆ คือเน้นเรื่อง “ชา🌿” มากกว่า ตอนจองที่พัก…ลุงเดชก็ไม่ให้โอนเงินมามัดจำห้องก่อน คือ คุณลุงทำเองหมดเลย😊 แต่พอเรามาแล้วจะรู้สึกเหมือนมานอนบ้านญาติมาก เพราะคุณลุงเป็นกันเอง คอยถามว่า “เอาชามั้ย” “ดึกแล้ว ลุงไปนอน แต่ถ้าอยากกินชาก็มาเติมเอาตรงนี้ได้นะ” “อาบน้ำอุ่นรึเปล่า ห้องน้ำที่มีน้ำอุ่นอยู่ห้องนี้นะ” …
เราชอบที่นี่มาก และเราก็คิดว่าอยากส่งต่อความรู้สึกดีดี ที่เราได้เจอให้เพื่อนๆ ทุกคนด้วยค่ะ
ถ้าใครชอบภาพถ่าย การเล่าเรื่องของเรา ก็สามารถกดไลค์ให้กำลังใจในเพจ www.facebook.com/lazycoup กันด้วยนะคะ หรือถ้าเพื่อนๆ มีแพลน เที่ยวเชียงใหม่ ก็ลองหาพิกัดเพิ่มเติมได้ในรีวิว ที่เที่ยวเชียงใหม่ 2019 รวม 17 ที่ต้องห้ามพลาด
ขอบคุณทุกคนมากค่ะ ^^