เซี่ยงไฮ้ 4 วัน 3 คืน เที่ยวง่ายและอลังกว่าที่คิด

เซี่ยงไฮ้

เซี่ยงไฮ้ 4 วัน 3 คืน เที่ยวง่ายและอลังกว่าที่คิด

เซี่ยงไฮ้

เซี่ยงไฮ้ 4 วัน 3 คืน เที่ยวง่ายและอลังกว่าที่คิด

เซี่ยงไฮ้ สำหรับใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยวประเทศจีนมาก่อน แต่อยากจะลองเปิดหูเปิดตา และเปิดใจเที่ยวจีนดูสักครั้ง แนะนำเลยว่าห้ามพลาดมาที่ “เซี่ยงไฮ้” ก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ โดยเราสองคนการันตีในเรื่องของการท่องเที่ยว ว่าง่ายกว่าที่คาด และดีกว่าที่คิดไว้มากๆ เลยค่ะ

ก่อนจะไป เซี่ยงไฮ้ หรือ จีน กังวัลอะไรบ้างไหม

หลังจากที่เราได้สอบถามเพื่อนๆ เรื่องการเที่ยว เซี่ยงไฮ้ เราพบว่าหลายๆ คนอาจจะมีความกังวลในเรื่องของอะไรหลายๆ อย่าง เราสองคนจึงขอมาเขียนเกริ่นๆ ไว้ ตั้งแต่แรก เพื่อให้คลายกังวล และมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้กันได้สบายใจเลยค่ะ

-อาหารการกิน : อาหารอร่อยมากค่ะ แต่ต้องเลือกร้านนิดนึง ไม่ได้จืด และมัน ขนาดนั้นค่ะ
-ภาษา : คนยังพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก มีแต่ที่สนามบิน และดิสนีย์แลนด์ค่ะ แต่ว่าสามารถใช้ Google Translate ช่วยได้ และตอนที่จองที่พัก แนะนำให้จองกับ Booking.com เพราะว่าสามารถปริ้นท์ตัวใบจองเป็นภาษาจีนได้เลยค่ะ ซึ่งสองส่วนนี้ค่อนข้างช่วยชีวิตเราไว้เยอะ
-การเดินทาง : เดินทางง่ายมาก เพราะมีรถไฟฟ้าเชื่อมถึงสถานที่สำคัญๆ หมดเรียบร้อยค่ะ
-ห้องน้ำ : สะอาดเกินกว่าที่คิดมากๆ ค่ะ ยังสะอาดกว่าห้องน้ำตามปั้มของต่างจังหวัดบ้านเราอีกค่ะ
-การแซงคิว : เราโดนแซงคิวแค่ครั้งเดียวตลอดทริปที่ไปค่ะ
-การคุยเสียงดัง : ยังคุยเสียงดังอยู่ตามที่คิดไว้ค่ะ
-สูบบุหรี่ : สูบบุหรี่ค่อนข้างเยอะค่ะ แต่ตามที่พักส่วนใหญ่ก็จะไม่ให้สูบกันเหมือนแต่ก่อนแล้วค่ะ
-การทำวีซ่า : การเที่ยวจีนต้องทำวีซ่าก่อนไปนะคะ โดยสามารถติดต่อการทำวีซ่าได้ที่ อาคารธนภูมิ ชั้น 5 ตรงถนนเพชรบุรีตัดใหม่ได้เลยค่ะ โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,500 บาท (ยังไม่รวม vat 7%)

เรื่องเอกสารที่ต้องเตรียม สามารถศึกษาได้ที่ http://www.chinaembassy.or.th/th/lsfw/qzxk/t1043517.htm เพิ่มเติมได้ค่ะ แต่หลักๆ ต้องระวังเรื่องรูปถ่าย ต้องย้ำที่ร้านเลยค่ะว่าถ่ายไว้เพื่อขอวีซ่าจีน เพราะรายละเอียดจะต่างกับการถ่ายรูปปกติมากๆค่ะ

สรุปแพลนง่ายๆ เซี่ยงไฮ้ 4 วัน 3 คืน

คลายข้อกังวลไปบ้างเรียบร้อย เริ่มอยากไปเที่ยวจีนสักครั้งรึยังคะ ดังนั้นก่อนเราจะลงรายละเอียดยิบย่อย ของแต่ละสถานที่ เราขอสรุปแพลนภาพรวมของทริปนี้ให้เพื่อนๆ ดูก่อนว่า เราใช้เวลา 4 วัน 3 คืน ไปเที่ยวไหน และทำอะไรบ้างค่ะ

Day 1 : Starbucks Reserve Roastery > Shanghai Tower > The Bund
Day 2 : Zhujiajiao > Oriental Pearl Tower
Day 3 : Disney Land > Nanjing road
Day 4 : Yu Garden > Xintiandi > waibaidu bridge

ร้านอาหาร แนะนำอยู่สองร้าน ที่เรามากินซ้ำๆ ในทริปหลายรอบเลยกับ Canton 8 อร่อยจริงเรื่องติ่มซ่ำ และ The alley อร่อยจริงเรื่องอาหารผัดๆ ตามสูตรเฉพาะของเซี่ยงไฮ้ ว่าแล้วเราเริ่มออกเดินทางกันดีกว่าค่ะ

ที่พัก แนะนำให้นอนแถว The Bund หรือ Nanjing East Road ค่ะ เพราะใกล้แหล่ง shopping ร้านอาหารอร่อยๆ ที่เราแนะนำก็อยู่ย่านนี้ และมืดหน่อยก็เดินเล่น The Bund ได้ง่ายค่ะ

กล้องที่ใช้ในอัลบั้มนี้

เราทั้งคู่ใช้กล้อง Fujifilm รุ่น X-T30 กันคนละ body เลยสำหรับทริปนี้ และพกเลนส์ F2 Series คือ 18 f2/ 23 f2 /35 f2 และ 50 f2 ตลอดทริปค่ะ ข้อดีหลักๆ คือ โฟกัสไว น้ำหนักเบาสบายกระเป๋ามาก คือเดินเล่นถ่ายรูปได้สนุกกว่าทุกทริปเลยค่ะ ใครที่อยากไปเที่ยวแล้วพกน้ำหนักเบาๆ แนะนำซีรีย์นี้เลย

บินตรงจากกรุงเทพ สู่ เซี่ยงไฮ้ กับสายการบิน NokScoot

ตอนนี้สายการบิน NokScoot ได้เปิดให้บริการเส้นทางบินใหม่ เป็นเส้นทางบินตรงจากสนามบินดอนเมือง กรุงเทพ ไปถึง เซี่ยงไฮ้ ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องหรือต่อเครื่องใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ โดยสำหรับครั้งนี้ เป็นครั้งแรกสำหรับเราสองคนที่ลองใช้บริการสายการบินของ NokScoot ซึ่งเราสองคนประทับใจมาก และถ้ามีโอกาสเราก็อยากจะบินกับสายการบินนี้อีกแน่นอนค่ะ โดยที่เราชอบคือ

1.บินตรง : ใช้เวลา แค่ 4-5 ชั่วโมงเองค่ะ
2.ราคา : ราคาประหยัดมาก เที่ยวละ 3,400 เอง 
3.ขนาดเครื่องบิน : อันนี้ประทับใจสุด เพราะเป็นโบอิ้ง 777-200 ค่ะ ที่นั่งแบบ 3-4-3 ทั้งขาไปและกลับ ที่ต้องเน้นเรื่องขนาดเครื่องบิน เพราะพี่คิมค่อนข้างกลัวเรื่องการบินมาก พอเจอเครื่องเล็กก็จะค่อนข้างกังวลค่ะ แต่อันนี้เครื่องใหญ่กว่าที่เราคิดเยอะเลย ที่นั่งกว้างมาก นั่งสบาย นั่งเข่าไม่ชนเบาะ แถมเครื่องไม่สั่นด้วยค่ะ
4. ที่นั่งชั้น Economy แถวหน้าแบบ Stretch : Stretch คือเรายืดขาได้ยาวมาก
5.เลือกที่นั่งแบบ Scoot in Silence ได้ : จะเป็นโซนเงียบ เพราะเราบินช่วงกลางคืนแล้วเที่ยวต่อเลย พอนั่งโซนเงียบก็ทำให้ได้นอนพักแบบสบายใจ
6.อาหารบนเครื่อง : มี NokScoot Cafe ที่เอาจริงๆ นะ อาหารอร่อยมาก รสชาติเข้มข้นจัดจ้านเหมือนที่เรากินตามร้านอาหารเลย (ไม่ใช่แค่กินกันตายอ่ะ นึกออกป่ะ 5555 ) แต่ต้องสั่งล่วงหน้าภายใน ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนบินนะ สั่งได้ที่ https://www.nokscoot.com/

nok scoot nok scoot

      ปล.ขากลับจากเซี่ยงไฮ้ เราเจอกลุ่มคนสูบบุหรี่และเสียงดังบนเครื่องบิน ซึ่งแอร์ที่นี่จัดการดีมาก ทั้งเรื่องการตักเตือนและส่งต่อเรื่องให้ทางตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งยิ่งทำให้เรารักสายการบินนี้มากค่ะ เป็นเหตุผลให้เราอยากจะมาบอกต่อเพื่อนๆ ให้ลองบินสายการบิน NokScoot ที่ราคา Low Cost แต่อุ่นใจทั้งคุณภาพและบริการ ได้อะไรหลายๆ อย่างที่คุ้มค่าเกินราคาเลย (ตัวเราเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องบริการมาก เรารับประกันเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ) 

Starbucks Reserve Roastery

Starbucks เป็นพิกัดแรกของทริป (เหตุผลง่ายๆ คือ เราหิวกาแฟมาก 555) สำหรับที่นี่ ห้ามพลาดเลยนะ สำหรับคอสตาร์บัค และคนรักกาแฟ เพราะ Starbucks Reserve Shanghai Roastery เป็นสตาร์บัคที่ใหญ่ที่สุดของโลก และใหญ่กว่าสาขาปกติเบาๆ 300 เท่าเองค่ะ แต่ความพิเศษของที่นี่ ไม่ใช่แค่เรื่องขนาดใหญ่อย่างเดียว เพราะกิจกรรมแน่นมาก มีหลายสายให้เราเลือกเดินค่ะ ตั้งแต่สายนั่งชิวจิบกาแฟ สายดริป สาย Cold Brew แถมเมนูกาแฟแปลกไปจากสาขาปกติเพียบ หรือแม้แต่สายชา ก็จัดเต็มมีทั้งชงแบบธรรมดา หรือจะมาสกัดเย็นก็ได้ค่

กาแฟเอย ชาเอยไปแล้ว สายขนมก็มีให้เลือกเพียบแบบจัดเต็มนะคะ ไม่น่าเชื่อว่า เราเดินเล่นในร้าน ก็เมื่อยได้ค่ะซิส เดินวนๆ ไปหลายมุมเลยค่ะ แถมที่พีคสุด ไม่คิดว่าจะเจอในนี้ คือ นางทำตัวเสมือนโรงงานค่ะ มีคั่วกาแฟ เห็นเม็ดๆ นี่กลิ้งๆ ในเครื่อง แล้วผ่าน Process วนลงท่อเหนือหัวเรา ไปจนถึง Fill ใส่ถุงพร้อมขายกันเลยค่ะ สาบานได้นี่ร้านกาแฟนะลูก

การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Nanjing West Road ค่ะ

เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน  07:00-23:00 น.

Starbucks Reserve Roastery เซี่ยงไฮ้ Starbucks Reserve Roastery เซี่ยงไฮ้ Starbucks Reserve Roastery เซี่ยงไฮ้ Starbucks Reserve Roastery เซี่ยงไฮ้

Shanghai Tower

ตึกสูงที่สุดที่เราเห็นในย่านนี้ และดูโค้งๆ เป็นเกลียวนั่นล่ะค่ะ คือตึก Shanghai Tower เราคิดว่าห้ามพลาดที่จะมาดูวิวบนตึกนี้ เพราะ ตึกนี้สูงเป็นอันดับ 2 ของโลกเลยค่ะ โดยครั้งนี้เราจองตั๋วล่วงหน้ากับ Klook มา ซึ่งค่าตั๋วจะถูกกว่าซื้อหน้างานค่ะ (เราได้มาตกใบละ 700-800 บาทเอง) ใครแพลนไปก็กดจอง บัตรเข้าชมจุดชมวิวบนตึกเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ (Shanghai Tower) ชั้น 118 ได้เลยค่ะ

ตอนที่เราไปถึงข้างล่างตึก จะเห็นเลยว่า หมอกเยอะมาก เยอะจนมองขึ้นไปไม่เห็นยอดตึก แต่เราก็ซื้อตั๋วมาแล้ว และอยากขึ้นมาก เลยตัดสินใจ ขึ้นไป ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่บอกแล้วว่า ขึ้นไปก็ไม่เห็นเมืองนะ แต่เราก็ดื้ออยากขึ้นอ่ะ ปรากฏว่า ด้วยความที่ตึกนี้สูงมากกก เลยเห็นเมฆลอยอยู่ใกล้ๆ แทน คือเราชอบมาก เหมือนเป็นสวรรค์ตรงหน้าเราเลยอ่ะ  หมอกวิ่งผ่านตึกต่างๆเร็วมาก เพราะเมฆลอยต่ำ สวยงามเหมือนสวรรค์เลย การที่มีเมฆหมอกแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบเนอะ

การเดินทาง : ลงสถานี Lujiazui เดินทะลุตึก IFC มาได้เลยค่ะ

Shanghai Tower เซี่ยงไฮ้

Shanghai Tower เซี่ยงไฮ้

Shanghai Tower เซี่ยงไฮ้

The Bund

     The bund หรือ Waitan เป็นภาพที่ทำให้เราตัดสินใจมาเซี่ยงไฮ้เลยนะ เพราะว่าเราเห็นรูปร่างของตึกที่นี่แล้วสวยงามมาก มีความเป็นผู้ดีอังกฤษ บางครั้งเห็นเจ้ารูปปั้นวัวกระทิงแล้วก็มโนว่า เดินอยู่ Wall Street ของอเมริกาค่ะ ซึ่งเราสามารถมาเดินเล่นชมวิว กินอะไรง่ายๆ แถวนี้ได้ทั้งช่วงเช้าและเย็นค่ะ (เราเลือกพักในย่านนี้ มีโรงแรมใกล้ๆ เยอะมากค่ะ) 

เดินเล่นช่วงกลางคืนก็จะเย็นๆ ตามตึกต่างๆ ก็จะเปิดไฟสวยงามประมาณนี้เลยค่ะ ดูเหมือนอยู่จีนหรอ ไม่ค่ะ!! เหมือนไปยุโรปมากกว่า และอย่าลืมมองหาธนาคารกรุงเทพ สาขาเซี่ยงไฮ้ ที่ The Bund ด้วยนะคะ

การเดินทาง : ลงสถานี  Nanjing East Road ค่ะ

ธ้ำ

นอกจากตอนกลางวัน ตอนช่วงเช้าๆ ก็สามารถมาเดินเล่นถ่ายรูปได้นะคะ คนน้อยกว่าด้วย เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปแนวสตรีทมากค่ะ โดยเฉพาะตอนเราใช้กล้องที่บอดี้เล็กๆ อย่าง Fujifilm X-T30 กับเลนส์ตระกูล F2 จะยิ่ง Snap ภาพได้ง่ายขึ้นค่ะ

the bund เซี่ยงไฮ้

ยกตัวอย่างภาพถ่ายแนวสตรีทมาเป็นไอเดียกัน 
รูปซ้าย : คนเสื้อสีม่วง กำลังออกกำลังกายกับดงดอกไม้สีม่วงด้วยกัน
รูปขวา : คนกำลังเดินอยู่ตรงกำแพง แล้วมีเงาสะท้อนจนเหมือนคนไม่มีหัวค่ะ

the bund เซี่ยงไฮ้

Zhujiajiao

พอเรายิ่งอ่านรายละเอียดการเที่ยวของเซี่ยงไฮ้ เรายิ่งพบว่าเซี่ยงไฮ้เนี่ย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายมาก และอย่างเมือง Zhujiajiao ก็เป็นอะไรที่เราคิดว่า น่าสนใจสุดๆ เพราะเป็นเมืองโบราณเก่าแก่ ที่มีน้ำอยู่ทั่วเมืองไปหมดเลย ถือว่าเป็น Ancient Water Town ที่น่าสนใจค่ะ

การเดินทาง : มี 2 วิธีด้วยกันค่ะ
1.Huzhu Express Line (ป้ายรถบัสอยู่ฝั่งตรงข้าม Shanghai Concert Hall) นั่งบัสมา 1 ชั่วโมงค่ะ
2.จองผ่าน 1 Day Trip ทัวร์ชมเมืองน้ำโบราณจูเจียเจี่ยว ผ่าน Klook ก็จะมีคนขับรถมารับถึงหน้าโรงแรง มีไกด์คอยดูแลบอกมุมถ่ายรูปให้ (ไกด์ภาษาอังกฤษดีมากก) พาไปเที่ยว ไปกิน แบบส่วนตัวเลยค่ะ

เซี่ยงไฮ้ เซี่ยงไฮ้ เซี่ยงไฮ้

Oriental Pearl Tower

ใครจะรู้ว่าตึกไข่มุก ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้ เป็น “หอโทรทัศน์” และเป็นหนึ่งในหอส่งสัญญาณที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งข้างบนก็จะมีจุดชมวิวด้วย เป็นแบบ 360 องศาเลยค่ะ และมีพื้นใสยืนแล้วเสียวไส้กันตามๆ ไป

Disney Land

ตะลุยเที่ยว Disneyland ที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ในเอเชีย และอันดับ 2 ของโลกกัน กับดิสนีย์เซี่ยงไฮ้ ที่เป็นสาขาที่เปิดใหม่ล่าสุดของโลกด้วยค่ะ (ปีที่เราไปมาคือ 2019 นะ)

ทำไมต้อง Shanghai Disneyland :
-สามารถดูแผนที่ทุกอย่าง รอบการแสดง ห้องน้ำ ร้านอาหาร การจองบัตรเครื่องเล่น ผ่านแอพในมือถือได้หมดสะดวกมาก
-ประเด็นสำคัญเลย คือ “คนน้อยมาก” เราไปวันธรรมดา แทบไม่ต้องกด Fast Pass สามารถเดินเข้าไปเล่นเครื่องเล่นแปปเดียวก็ได้เล่น และมุมถ่ายรูปเพียบ คือ ถ่ายเราเดี่ยวๆ กับหลายๆ จุดง่ายมาก
-รถไฟฟ้าถึงจ้า นั่งลงสาย 11 สุดสถานีได้เลย
-โซน Disney Town ก่อนเข้าสวนสนุก มีคาเฟ่ ขายน้ำขนมปังด้วย
-สิ่งที่คนกังวลกันเยอะ อย่างเรื่องความสะอาด ห้องน้ำ และการแซงคิว เราโดนแซงคิวแค่ 1 คน จากการต่อคิวเข้าเครื่องเล่นทั้งวัน และห้องน้ำสะอาดทุกห้องทุกที่ สบายใจมากค่ะ

การจองตั๋ว : เราจองตั๋วผ่านแอพ Klook เลย ซึ่งจะมีให้เลือกว่าเป็น 1 วัน หรือ 2 วันก็ได้ค่ะ ข้อดีของการจองผ่าน Klook คือ
ราคาถูกกว่าไปซื้อหน้างาน และยิ่งถูกถ้ามีโค้ดส่วนลดต่างๆเพิ่ม / ไม่ต้องต่อแถวซื้อตั๋ว / ไม่ต้องปริ้นท์ voucher แค่ยื่น passport ไป ก็เรียบร้อยเลย สะดวกมากค่ะ แนะนำว่าจองก่อนไปได้เลย
จองที่ลิ้งค์นี้เลยยย : 

หากใครต้องการดูรีวิวละเอียดยิบ ของดิสนีย์เซี่ยงไฮ้ ทั้งเรื่องการเดินทาง การจองตั๋ว เทคนิคถ่ายรูป อาหารต่างๆ ก็กดเข้าไปดูได้ที่ลิ้งค์นี้เลยค่ะ
https://www.lazycoup.com/shanghai-disneyland-2019/

 Yu garden หรือ Yuyuan Garden

สวนอี้หยวน เป็นสวนจีนแท้ ไม่มีชาติอื่นผสมแบบ 100% ที่นี่เป็นสวนลูกกตัญญูค่ะ คือ ย้อนไปสมัยราชวงศ์หมิง ลูกได้สร้างสวนแห่งนี้ไว้ให้ป๊าม๊าได้อยู่ยามแก่ชราค่ะ นอกจากที่มาของสวนยังซาบซึ้งน้ำตาไหล ยังมีอารธรรม ศิลปะจีน ซึ่งเราชอบมากกกก ค่อยๆ เดินลัดเลาะหามุมถ่ายรูปตามตรอกประตู ผ่านต้นไม้เขียวขจีได้สวยงามสนุกมากค่ะ

ในส่วนของข้างในสวน คนก็จะน้อยกว่าโซนข้างนอกเยอะมาก โดยค่าเข้าชมของที่นี่จะอยู่ที่ 40 หยวนต่อคน หลายคนบอกว่าแค่ข้างนอกก็สวยแล้ว แต่เราเห็นต่างค่ะ “มาแล้วต้องเข้าไปดูให้หมด อย่าให้กลับไปแล้วเสียใจที่หลัง” อันนี้คือคอนเซ็ปการเที่ยวของเราทุกครั้งค่ะ เพราะเราก็ไม่รู้นะ ว่าจะมีโอกาสมาเซี่ยงไฮ้อีกมั้ย หรือข้างในสวยไม่สวย สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น และถ้ามีโอกาสต้องใช้ให้คุ้มค่ะ

ส่วนด้านนอกที่เป็นโซนไม่เสียตัง เค้าบอกว่าสวยกัน ก็สวยจริงนะ แต่ดูคลื่นมหาชนทั้งหลายค่ะ ถ่ายรูปเรากับตึกโล่งๆ เนี่ย ไม่มีทางได้แน่นอน แต่ๆๆๆ ข้างนอกดียังไง ??? มีของขายเพียบ หลากหลายมาก ทั้งของกิน ของใช้ ของที่ระลึก งาน handmade น่ารักๆ แบบจีน อันนี้ได้ฟีลลิ่ง เดินจตุจักร ในเมือง old town ค่ะ ใครชอบเดินเล่นและถ่ายรูป ที่นี่คือคำตอบ

การเดินทาง : Yuyuan Garden line 10

Xintiandi

สำหรับสถานที่เราจะไปต่อ คือ Xintiandi เพราะเราเห็นสไตล์ตึก แล้วเราแอบนึกถึง Fujin Street ของไต้หวันมากกก ที่นี่จะมีโซนปลูกต้นไม้สวยงาม ตึกฮิปๆ เก๋ๆ และมีร้านกาแฟ ร้านอาหารเพียบ สายคาเฟ่ มานี่ได้ไม่เสียใจแน่นอนค่ะ

การเดินทาง : ลงสถานี Xintiandi ได้เลย

Waibaidu bridge

     สะพานบ้าอะไร อ่านภาษาอังกฤษว่า ไว้ ไป ดู 555555 ตอนเราอ่านครั้งแรกที่ขำเลยจ้า แต่เอาจริงเราชอบดูวิว city scape ของสะพานนี้มากกว่า the bund อีกค่ะซิส เพราะว่าตอนที่ดูวิวตรงนี้ จะเห็นฉากหน้าเป็นสะพาน และมีเงาของตึกต่างๆ สะท้อนน้ำ เหมือนเป็นกระจก ชอบจนเป็นภาพปก และชอบความล้ำของที่นี่เหมือนเป็นโลกอนาคตเลยค่ะ ที่สำคัญคือ คนน้อยกว่าชมวิวสบายใจกว่าค่ะ โดยอีกฝั่งของสะพานก็จะเห็นพระอาทิตย์ตก และน้ำนิ่งสะท้อนเป็นกระจกเหมือนกันค่ะ

Canton 8

ในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของทั้ง 4 วันจบเรียบร้อยแล้ว ที่นี้เราจะมาแนะนำร้านอาหาร 2 ร้านโปรดของเราให้ค่ะ โดยร้านแรกคือ Canton8 เพราะร้านนี้เป็นร้านพรีเมี่ยมมาก และได้รับ Michelin 2 ดาวด้วยค่ะ ร้านนี้จะอยู่ในตึก The Central ชั้น 5 ค่ะ เวลาจะไปก็ search “Central Emporium” ได้เลยนะคะ
ปล.ร้านนี้ยังไม่มีคนไทยรีวิวด้วยเน้อออ อยากให้ไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ และยังได้ทานอะไรอร่อยๆ กัน จะได้รู้ว่าอาหารจีนไม่ได้มีแต่จืดกับมันจ้า

อร่อยมั้ย : อร่อยทุกอย่างค่ะ แต่ที่เราชอบมาก คือ พวกติ่มซำ ฮะเก๋า ซาลาเปา อร่อยจริงๆ ค่ะ สั่งเปิ้ลมาหลายเข่งเลย และข้าวผัดในรูปแรกก็อร่อยมากค่ะ
แพงมั้ย : ถ้าสั่งพวกเป็ดไก่ จะค่อนข้างแพงมาก แนะนำว่ามาแล้วทานพวกติ่มซำ กับประเภทข้าว เราว่าโอเคกว่าค่ะ

The Alley 

อีกหนึ่งร้านที่เราไปฝากท้องมาเกิน 3 มื้อ กับ The Alley ร้านนี้เป็นความบังเอิญ เราเห็นคนเข้าไปทานเยอะดี ก็เลยเข้าไปกะฝากท้อง กินง่ายๆ แต่อร่อยและราคาโอเคเกินคาดค่ะ เลยมาฝากท้องอีกหลายหน (แต่ถ่ายภาพไว้แค่ตอนไปทานหนแรก 5555 รูปอาหารเลยไม่เยอะมากเนอะ) อาหารที่อร่อยที่นี่ คือพวกผัดผัก อันนี้อร่อยทุกจานเลยนะ ที่เซี่ยงไฮ้จะผัดไม่เหมือนบ้านเราเลย ต่างกันในเรื่องของซอสที่ใช้ผัด และตัวผักเอง จะมีกลิ่นซอสเฉพาะ และกลิ่นคั่วกระทะไหม้นิดๆ หอมมาก รสชาติหวานนนน กลมกล่อมทุกจาน ไม่มีขมค่ะ นอกจากผัดผักแล้ว เนื้อวัวก็อร่อย มีรูปภาพและคำบรรยายภาษาอังกฤษให้ว่าเป็นอะไรค่ะ สั่งง่าย สบายเลย 

พิกัดของร้าน ตั้งอยู่ตรงข้ามกับห้าง “Central Emporium”  ค่ะ ใกล้กับ Canton 8 เลย

จบทริปแล้วววว เป็นยังไงบ้างค่ะ กับทริปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ สั้นๆ แบบ 4 วัน 3 คืน แต่ภาพสวยงามจัดเต็ม ซึ่งครั้งนี้เราประทับใจมากกกกก เดิมทีเราไม่เคยมีความคิดว่าอยากมาจีนเลย ด้วยความกังวลเรื่องห้องน้ำ / ภาษา / ห้องพัก / การแซงคิว แต่เอาจริงๆนะ ไปมาครั้งนี้เราประทับใจอ่ะ และบอกเลยว่า เราอยากไปเที่ยวจีนอีก มาเถอะ เที่ยวประหยัด ทั้งสายการบินอย่าง Nokscoot ที่พัก ค่ารถไฟฟ้า ค่าอาหาร

สำหรับใครที่ชอบการรีวิวครั้งนี้ของเราสองคน ก็สามารถเข้ามาพูดคุยกันต่อได้ที่เพจ Lazy Coup : เที่ยวเป็นคู่ และหากใครอยากหาข้อมูลการเที่ยวต่างประเทศในแบบคู่รักอย่างคู่เราต่อ ก็อ่านได้ที่ https://www.lazycoup.com/category/travel/international/

ขอบคุณมากค่ะ ^^