The Three Bubble Houses โดมใสลอยน้ำที่แรกในไทย

18 Jun The Three Bubble Houses โดมใสลอยน้ำที่แรกในไทย

The Three Bubble Houses ที่พักเปิดใหม่ “โดมใสลอยน้ำ” ที่แรกในไทย ตั้งอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นที่พัก ที่น่าชวนแฟนไป นอนแช่อ่าง ฟังเสียงน้ำไหล ชมวิวลำธารยามเช้า นับดวงดาวยามค่ำคืน โรแมนติกที่สุด ถ่ายรูปได้สวยที่สุด พร้อมแล้ว เดี๋ยวเราพาไปทำความรู้จักกับรีสอร์ทแห่งนี้กัน

:: The Three Bubble Houses คืออะไร? ::

ที่นี่เป็นรีสอร์ท ที่มีห้องพักแบบ Bubble หรือ โดมใส ซึ่งเป็นที่แรกของไทย ที่นำเอาโดมใสแบบนี้ มาวางไว้เป็นห้องพักอยู่บนแพแบบลอยน้ำค่ะ โดย Room Type แบบนี้ เป็นที่พักโซนใหม่ล่าสุด ของ บ้านภูฟ้ารีสอร์ท จังหวัดกาญจนบุรี ค่ะ ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำแควน้อยได้สวยงามจากที่พักโดมใสทุกหลังเลยนั่นเองค่ะ โอ้ย! น่าไปมาก!

ในโซนที่พักโดมใสโซนใหม่ของบ้านภูฟ้ารีสอร์ท ตามแพลนการก่อสร้าง จะแบ่งเป็น “ดิน น้ำ อากาศ” ซึ่ง ดิน หมายถึงที่พักโดมใสบนฝั่ง, น้ำ หมายถึง ที่พักโดมใสที่เป็นแพลอยน้ำค่ะ, อากาศ คือ ที่พักโดมใสแบบลอยฟ้า ซึ่งปัจจุบันนี้ ยังไม่ได้สร้างแบบลอยฟ้านะคะ ทำให้ที่พักจึงมีทั้งหมด 6 ห้อง แบบดินบนฝั่งจำนวน 3 ห้อง และที่พักแพลอยน้ำ จำนวน 3 ห้องเท่านั้นค่ะ ซึ่งไม่ว่าจะนอนตรงไหน ก็จะเห็นวิวแม่น้ำแควน้อยได้อย่างสวยงามค่ะ

ภาพมุมสูงของที่พัก ทำให้เราเห็นภาพห้อง Bubble ทั้ง 6 หลังได้ชัดเจนค่ะ โดยในอนาคตอันใกล้ เราก็คงจะได้เห็นที่พักแบบใหม่เก๋ๆ ที่เป็นโดมใสลอยฟ้า ยังไงก็รออัพเดทข้อมูลจากทางที่พักอีกทีนะคะ ว่าหน้าตาของโดมลอยฟ้าจะเป็นยังไงกันค่ะ

บรรยากาศที่พัก โดมใสที่ตั้งอยู่บนฝั่ง เหมาะกับคนที่ไม่อยากนอนโคลงเคลงบนแพ  และข้อดีอีกอย่าง คือ เดินขึ้นลงได้ง่ายกว่า และเห็นวิวแม่น้ำแควน้อยได้เช่นกันค่ะ

สำหรับที่พักโดมใสแบบลอยน้ำ ข้อดีคือ เป็นที่แรกของไทย ที่มีโดมใสลอยน้ำแบบนี้ บรรยากาศจะชิวมาก คือ เราสามารถนั่งทานข้าว ห้อยขาลอยน้ำ และนอนฟังเสียงน้ำไหลได้อย่างใกล้ชิดค่ะ แต่การเดินเข้าห้องพักจะลำบากกว่าห้องบนฝั่งเล็กน้อยค่ะ

สำหรับราคาห้องพัก จะอยู่ที่ 5,900 บาท/คืน ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ รวมทั้ง อาหารเย็น (มีให้เลือกว่าจะรับประทานเป็น หมูกระทะ หรือจิ้มจุ่ม), อาหารเช้าที่เป็น American Breakfast และกิจกรรมล่องแพเปียกแล้วค่ะ

สนใจติดต่อจองห้องพัก และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

FB เพจ The Three Bubble Houses

Tel : 081 256 9930

:: แผนที่ การเดินทาง  ::

รีสอร์ทนี้จะอยู่ห่างจากตัวเมืองกรุงเทพฯ ประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ ด้านหน้าทางเข้าจะเขียนว่า บ้านภูฟ้ารีสอร์ท นะคะ หากเห็นป้ายชื่อรีสอร์ทนี้ แสดงว่ามาถูกทางแล้วแน่นอนค่ะ หรือง่ายสุดก็ปักหมุดตาม Google Maps ด้านล่างได้เลยค่ะ

แผนที่ The Three Bubble House

:: บรรยากาศห้องพัก  ::

เราพอจะรู้ในส่วนของ Concept ภาพรวมของที่พักไปเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเราจะมาพาเดินเซอร์เวย์ดูรายละเอียดต่างๆ ของบับเบิ้ล โดมใสกันค่ะ ซึ่งโครงสร้างต่างๆ ทุกหลังจะเหมือนกันนะคะ แต่เราขอเข้ามาเช็คอินกับแบบลอยน้ำ เพื่อลองประสบการณ์ที่แปลกใหม่ที่สุดในไทยกัน

ห้องพักแต่ละหลังจะแยกผนังส่วนตัวออกจากกันอย่างชัดเจนค่ะ ถ้าเราเปลี่ยน Room Type ของห้องพักก็เหมือนเป็นระดับ Villa ของรีสอร์ทนั่นเองค่ะ ซึ่งจะมีลานกว้างๆ ให้เราไว้นั่งทานข้าวชิวๆ ยามเย็นได้เลย และที่แน่ๆ คือ มีโดมใสสวยๆ รอให้เราเข้ามาเช็คอินฟินๆ ค่ะ

ด้านในของห้องพัก มีอะไรบ้าง? เป็นคำถามยอดฮิตที่ทุกคนอยากรู้กัน ด้านในโดมใสจะมีทั้งเตียงนุ่มๆ ผ้าห่มอุ่นๆ พร้อมแอร์ทำความเย็น ที่ทำให้การนอนโดมใสเป็นอะไรที่ชิวมากค่ะ

บรรยากาศของโดมใสริมน้ำด้านใน ก็จะสามารถมองเห็นแม่น้ำ ทิวเขาสวยๆ ได้จากเตียงนอนเลยค่ะ

ในห้องบับเบิ้ล จะมีการเป่าลมจากด้านนอกเข้าด้านในตลอดเวลาเลยค่ะ ทำให้เราไม่อึดอัดเวลานอนค่ะ โดยการเปิดประตูก็ต้องเปิดปิดทีละชั้น เพื่อป้องกันลมจากด้านในออกเท่านั้นค่ะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทจะมาบอกวิธีการใช้โดมใสให้ทั้งหมด ไม่ต้องกังวลค่ะ

ข้อควรรู้เกี่ยวกับโดมใส ในสภาพอากาศของเมืองไทย! ในไทยอย่างที่เรารู้กันว่า อากาศร้อนมาก ร้อนถึงร้อนที่สุดค่ะ ทำให้การเข้าพักในโดมใสจะมาต้องลงมาช่วง 16.00 น. เพื่อไม่ให้ร้อนเกินไป แต่ถ้าใครมาถึงก่อน ที่บ้านภูฟ้าน่ารักมาก เตรียมห้องรับรองให้เรานอนเล่นก่อนลงมาเช็คอินได้ค่ะ

ห้องพักทุกห้อง มีห้องน้ำส่วนตัวแยกออกมาอยู่ด้านหลังโดมชัดเจน มีน้ำอุ่นให้บริการ ผ้าเช็ดตัว สบู่ แชมพูครบหมดค่ะ และมีอ่างจากุซซี่ด้วยค่ะ

การมีจากุซซี่ ทำให้เราสามารถนั่งแช่อ่างชมวิวลำธารสวยๆ ได้ ชิวมากค่ะ และยังสามารถสั่ง Cocktail จากบาร์ด้านบนของรีสอร์ทมานั่งจิบไป ชมวิวไปได้อีกด้วยค่ะ

:: อาหารเช้า และอาหารเย็น ของ the three bubble houses  ::

ในส่วนของราคาห้องพักจะอยู่ที่ราคา 5,900 บาทต่อคืน อย่างที่แจ้งไปแล้วในช่วงต้นค่ะ โดยในราคานี้จะรวมอาหารเช้า และเย็น รวมถึงกิจกรรมล่องแพเปียกทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เราก็เลยอยากจะพามาดูในเรื่องของอาหารกันบ้าง ว่าเป็นอย่างไรค่ะ

ในส่วนของอาหารเย็น ที่นี่จะมีให้เราเลือกอยู่ 2 แบบ คือ จิ้มจุ่ม หรือ หมูกระทะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทจะยกมาเสิร์ฟให้ถึงหน้าห้อง!! เราเลยได้นั่งทานมื้อเย็นกันบริเวณลานนั่งพร้อมชมวิวแม่น้ำแควน้อยได้สบายเลยค่ะ ตอนที่พี่ๆ เข้ามาในห้อง ก็จะมาจุดเทียน เปิดไฟในโดมใส ยิ่งทำให้บรรยากาศยามเย็นโรแมนติกมากค่ะ

จะทานจิ้มจุ่ม หรือ หมูกระทะกันดี? แน่นอนเลยว่า สำหรับสายแข็งแบบเรา ขอเลือกหมูกระทะนั่งทานอย่างแน่นอนค่ะ ซึ่งบอกก่อนเลยนะ ว่าทั้งหมดในภาพนี่ เราทานหมดเกลี้ยงไม่เหลืออะไรทิ้งเลยสักชิ้นเดียวค่ะ เพราะรสชาติอร่อยมาก ยิ่งทานกับบรรยากาศแบบนี้ยิ่งทำให้อร่อยมากขึ้นไปอีก

ส่วนมื้อเช้า อาหารเป็น American Breakfast มีทั้ง ไข่ดาว เบคอน ไส้กรอก ข้าวต้ม ขนมปัง ชา กาแฟ สลัด ผลไม้ นม น้ำส้ม น้ำเปล่า เอาเป็นว่าอิ่มจุกๆ แน่นอน แต่ที่เลิศกว่าคือ มื้อนี้เราได้นั่งทานข้าวคู่กับคนรัก นั่งห้อยขาแช่แม่น้ำแควน้อยกันค่ะ เราว่าโดนใจสายชิวมากๆ เลยหล่ะมื้อนี้ ยิ่งถ้าใครมาช่วงหน้าหนาว จะเห็นสายหมอกในยามเช้าด้วย

สรุปประสบการณ์ ของเราสองคนที่ได้ลองเข้ามาพักที่นี่ เราคิดว่า ที่นี่เป็นที่พักที่สวย เห็นวิวเก๋ๆ น่ารักมากค่ะ โดนใจคู่รักที่อยากหาที่เที่ยวแปลกใหม่ แต่พักสบายมากค่ะ

ส่วนใครที่ชอบคอนเท้นท์ที่พักน่ารักๆ แบบนี้ ก็อย่าลืมกดเข้าไปใน  คอนเท้นท์ที่พักรีสอร์ท ได้เลยค่ะ หรือเข้ามาพูดคุยกับเราสองคนได้ที่ FB เพจ Lazy Coup : เที่ยวเป็นคู่ หรือ IG Lazy Coup : เที่ยวเป็นคู่ ได้เช่นกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ในคอนเท้นท์หน้าค่ะ