25 Dec (Taiwan Day 3) เดินชิว ชมวิว ริมทะเลสาบ Sun Moon Lake
Sun Moon Lake (日月潭) ทะเลสาบสุริยันจันทรา
Sun Moon Lake มี nick name ว่าเป็น สวิสเซอร์แลนด์เมืองไต้หวัน เนื่องจากที่นี่เป็นทะเลสาบแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน และโอบล้อมไปด้วยภูเขาขนาดใหญ่หลายลูก มาปั่นจักรยาน นั่งเรือ เดินชิว ที่นี่สัก 1 วันเต็มๆ ให้ธรรมชาติได้โอบกอดเราไว้
การเดินทางจากไทเป 台北市 -> ไถจง 台中 เราแนะนำให้เดินทางไป 2 วิธี เพื่อความรวดเร็วในการเดินทางมากที่สุด
1.Taiwan High Speed Rail (THSR) : ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ค่าโดยสารค่อนข้างสูงประมาณ 700 NTD
2.Taiwan Railway Administration (TRA) : มีหลายแบบให้เราเลือก แนะนำเลือกเป็น Puyuma Express (普悠瑪號 อ่านว่า ผู่โยวหม่า) เพราะใช้เวลา 1 ชั่วโมง 37 นาที และราคาแค่ 375 NTD ซึ่งเท่ากันกับ TRA แบบอื่น แต่วิ่งเร็วสุด จอดป้ายน้อยสุด คนมายืนเบียดไม่มี เพราะเป็นแบบจองที่นั่งเท่านั้น ไม่มีตั๋วยืนเลย
การเดินทางจากไถจง 台中 -> Sun Moon Lake (日月潭)
ต่อรถบัส Nantou โดยขึ้นที่ Gancheng Station เดินจากสถานี TRA ประมาณ 600 m หรือ 10 นาที ตรงรถบัสจะมีแพ็คเกจขายสำหรับตั้งแต่รสบัส/เรือ/จักรยาน/ขึ้นกระเช้า/Formosan Aboriginal Culture Village ซึ่งราคาถูกกว่าซื้อแยกเยอะมาก ในการเดินทางโดยรถบัสจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถึง Sun Moon Lake
***แนะนำ : นอนพักที่ไถจง หรือ sun moon lake สักคืน จะได้เดินทางไม่เหนื่อยเกินไปจะดีที่สุด
รถจะปล่อยเราที่ Shui She Visitor Center จะมีพนักงานบริษัทเรือต่างๆพุ่งเข้ามาประชิดตัว เราก็ยื่นบัตรที่ซื้อมาตอนแรก แลกตั๋วเรือจริงกับพนักงานได้เลย (เหตุการณ์นี้จะเกิดไวมากไม่ถึง 30 วินาที) เนื่องจากหลายบริษัทแข่งขันกันนั่นเอง แต่มาตรฐานเรือไม่ต่างกันเลย สามารถใช้บริการได้หมด แล้วให้สังเกตรูปเรือในตั๋วก็จะรู้ว่าต้องไปขึ้นลำไหนนั่นเอง
ขออธิบายเรื่องเรือก่อน เรือที่เราใช้บริการจะจอดทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน (ทุกบริษัทเหมือนกันหมด)
1.ท่าฉุ่ยเช่อ Shuishe Pier : เป็นท่าเรือแรก ที่เราจะเดินมาหลังจากลงบัส
2.ท่าวัดเซวียนกวัง Xuanguang Temple Pier: เป็นท่าเรือที่สามารถเดินไปไหว้พระวัดเซวียนกวัง
3.ท่าอีต๋าเช่า Ita Thao Pier : เป็นท่าเรือที่ไว้นั่งกระเช้าชมวิวป่า ทะเลสาบมุมสูง และหากนั่งกระเช้าไปสุดทาง ก็จะเจอ Formosan Aboriginal Culture Village Station
**Route ที่เรานั่งเรือ คือเพื่อไปขึ้นกระเช้า จึงเริ่มนั่งจาก 1 > 2 > 3 (ไม่ต้องเปลี่ยนเรือนะคะ)
พอทราบข้อมูลเรื่องการนั่งเรือเที่ยวแล้วจะพาไปดูบรรยากาศกัน เราได้นั่งเรือที่เป็นรูปม้าค่ะ
เกาะลาหลู่ (Lalu Island) เกาะขนาดเล็กที่สุด ใน ทะลสาบที่ใหญ่ที่สุด ของไต้หวัน
ในการนั่งเรือก็จะเจอเกาะกลางน้ำลาหลู่ Lalu Island จริงๆ แล้วตอนแรกเกาะนี้มีขนาดใหญ่มาก แต่ในปี 1919 ทางการญี่ปุ่นที่ปกครองไต้หวันตอนนั้นส่งให้สร้างการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งน้ำขึ้นในทะเลสาบแห่งนี้ ปริมาณน้ำในทะเลสาบเลยเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว แถมปี 1999 เกิดแผ่นดินไหวในไต้หวัน แผ่นดินใต้ทะเลสาบเลยมีการเคลื่อนขยับ ปริมาณน้ำจึงไหลเข้ามาสูงขึ้น จนจากเกาะขนาดใหญ่ กลายเป็นเกาะขนาดเล็กที่สุดในไต้หวันแทน
นั่งเรือต่อไปเพื่อลงที่ท่าอีต๋าเช่า Ita Thao Pier
ในละแวกท่าเรือแห่งนี้จะมีร้านอาหารสไตล์ไต้หวันอยู่หลากหลายร้าน แนะนำให้ทานข้าวแถวนี้ก่อน เพราะเราจะเดินไป Yidashao Lakeside Trial เพื่อทะลุไปนั่งกระเช้า Sun Moon Lake Ropeway กันค่ะ
จากร้านค้าวุ่นวาย เข้ามา Yidashao Lakeside Trial จะรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ในทางเดินนี้เงียบสงบ เป็นธรรมชาติมากๆ ใครที่ชอบแนวป่าๆ แต่เดินชิว แนะนำให้เดินมาทางนี้จริงๆ
เดินเพลินๆ ก็ถึง Sun Moon Lake Ropeway แล้ว
รายละเอียดกระเช้าของ Sun Moon Lake Ropeway มีกระเช้าแบบกระจกใสที่พื้นด้วยนะคะ (แต่จำนวนจะน้อยกว่าแบบทึบ) ซึ่งวันนี้เรามากันในวันธรรมดา ทำให้คนน้อยมาก สามารถนั่งกระเช้าใสได้แบบสองต่อสองเลย
ในส่วนของกระเช้าจะมีอยู่ทั้งหมด 4 สีด้วยกัน คือ สีเหลือง แทนพระจันทร์, สีแดง แทนพระอาทิตย์, สีฟ้า แทนทะเลสาบ และสีเขียว แทนป่าไม้ รวมเป็นบรรยากาศรอบ sun,moon,lake
ชมวิวบนกระเช้าประมาณ 15 นาที ก็จะขึ้นไปถึงข้างบนสุดเป็นแหล่งซื้อของฝาก และ หมู่บ้านวัฒนธรรม formosan aborigin หรือ สวนสนุกแบบชนเผ่าพื้นเมือง แต่เราสองคนเลือกจะไปชิวรอบทะเลสาบโซนอื่นมากกว่า เลยนั่งกระเช้าวนกลับมาด้านล่างอีกครั้ง
จุดถัดไปที่เราไปเช็คอินคือ Xiangshang Visitor Center เป็นตึกสวยงาม แอบซ่อนไปกลางป่า ภายในจะมีคาเฟ่ให้นั่งชมวิว sun moon lake ได้ชิวมาก ถ่ายรูปได้หลายมุมเลยสำหรับที่นี่
หลังจากนั้นเราจึงเดินกลับไปที่ Shui She Visitor Center โดยเดินทางที่ปั่นจักรยานกัน ซึ่งเค้าว่ากันว่าทางเดินนี้สวยที่สุดใน sun moon lake แล้ว
สะพานโค้งสวยตรงนี้เรียกว่า Shue i she dam เรามีวิธีถ่ายรูปเพื่อให้ได้มุมเด็ดๆ มาแชร์กันค่ะ
ให้นางแบบยืนรอที่สะพานแขวน แต่ช่างภาพจะไปยืนถ่ายจากอีกสะพานนึง
ก็คือสะพานสีแดงอันนี้ เป็นสะพานที่อยู่สูงกว่าสะพานแขวนนิดหน่อยค่ะ
ก็จะได้ภาพโทนแบบยืนหันหลังชมวิว sun moon lake แบบนี้เลย
บรรยากาศที่เหลือระหว่างเดินทางกลับค่ะ