Shirakawago Light up :: หมู่บ้านในฝัน ฉันไปมาแล้ว

04 Jul Shirakawago Light up :: หมู่บ้านในฝัน ฉันไปมาแล้ว

Shirakawago Light Up :: หมู่บ้านในฝัน ฉันไปมาแล้ว

เราเชื่อว่า ทุกคนต้องมีสถานที่ในฝัน แบบที่ต้องไปสักครั้งนึงในชีวิตนี้ สำหรับคู่เราสองคนก็มีนะ  แล้วดันนน…เป็นที่เดียวกันด้วยสินั่นก็คือ Shirakawago นั่นเอง และเพื่อนๆ หลายๆ คน คงจะสงสัยว่า ทำไมเราสองคน ถึงให้ที่นี่เป็น “Dream Destination” sinv “สถานที่ในฝัน” ของครั้งหนึ่งในชีวิตกัน ค่ะ
-เป็นหมู่บ้านชาวนา ที่ยังอนุรักษ์บ้านไว้แบบดั้งเดิม จนเป็นมรดกโลก
-เต็มไปด้วยบ้าน Gassho zukuri ทรงสามเหลี่ยม 60 องศา ที่ทำจากธรรมชาติหมด ไม่มีการตอกตะปูสักตัวเลย
-ในช่วงฤดูหนาว หิมะปกคลุมบ้านทุกหลัง ต้นไม้ทุกต้น ภูเขาทุกลูก
-ห้ามพลาดจุดชมวิว ที่เราจะเห็นทั้งหมู่บ้าน ที่หนาวเหน็บ แต่โดนโอบกอดด้วยภูเขา
-โดยเฉพาะช่วง Light up Event  ที่ยิ่งทำให้เหมือนบ้านนิยายปรัมปราในความฝันเลย ดูหนาวเหน็บ แต่อบอุ่นข้างใน

Shirakawago Light Up คือ อะไร

หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า เทศกาล Light Up นี่ คืออะไรกันแน่ สำหรับงานไลท์อัพ ถ้าอธิบายสั้นๆ ง่ายๆ คือการที่ในหมู่บ้าน มีการตกแต่งไฟตามบ้านช่อง และทางเดินต่างๆ ในการเปิดไฟครั้งนี้ จะไม่ใช่แค่แสงไฟที่แต่ละบ้านเปิดไว้เท่านั้น แต่เป็นไฟสปอร์ตไลท์ที่ยิ่งไปยังกำแพงบ้านหลายๆ หลังตามหมูบ้าน เพื่อให้มีความสว่างมากกว่าปกติ ซึ่งในการเทศการดังกล่าว จะจัดเพียงแค่ปีละ 6-7 วันเท่านั้น ซึ่งมักจะเริ่มเปิดไฟตั้งแต่ช่วง 17.30 ไปจนถึง 19.30 หรือ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง สรุปคือ เปิดไฟก็น้อยวัน แถมแต่ละวันก็น้อยชั่วโมงด้วยค่ะ

แต่หากใครอยากไปเที่ยวปกติ ไม่ต้องรองานเปิดไฟ ก็สามารถเดินทางมาได้ทุกวันนะคะ

 

กว่าจะได้ไป Light Up ต้องทำอะไรบ้าง ในปี 2019

Light Up Event เป็นอะไรที่ดีมาก เราสองคนก็อยากให้ทุกคนได้มากัน แต่ว่าการจองยากมากค่ะ ต้องอัพเดทในแต่ละปีดีๆ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงกันเยอะมาก เราจะมาเล่ารายละเอียดกันว่า กว่าจะได้ไปในปี 2019 เกิดอะไรขึ้นบ้าง และทำยังไงถึงจะได้ไปค่ะ

1.วันที่จัดงาน

ในช่วง ปลายเดือนกรกฎาคม ถึง ต้นเดือนสิงหาคม จะมีประกาศกำหนดการ 📅ของ Light Up Event ว่าจะจัดขึ้นจำนวนกี่วัน และวันที่เท่าไหร่ : ปี 2019 จัดทั้งหมด 6 วัน คือ 14,20,27 มกราคม และ 3, 11 และ17 กุมภาพันธ์ จากที่เราดูข้อมูล ทุกๆ ปีก็มักจะจัดกันในช่วง มกราคม และ กุมภาพันธ์ค่ะ

2.รอบการจองปี 2019

แบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ
2.1 Full System  : จุดเด่นของ Full system คือ เราสามารถนอนได้ในบ้าน Gassho zukuri ได้เลยนะ (ซึ่งปกติในคืน Light up ปีที่ผ่านๆมา จะให้แค่คนญี่ปุ่นนอนในบ้านเท่านั้น) และที่สำคัญอีกอย่างคือ มุม Observation Deck ก็จะได้มุมที่ดีที่สุดไป ไม่ต้องเบียดกับคนอื่นเลย มีอาหารให้ทานที่บ้านพักยามดึกกับเจ้าของบ้านชาวนาญี่ปุ่นเลย ดังนั้นห้ามพลาดเลยสำหรับการจองรอบนี้

2.2 นั่งบัส : รถบัสก็ยังต้องจองนะครัช จะจองหน้างานหรือตามเว็บปกติทั่วไปจะไม่สามารถมาในวัน Light up ได้
2.3 ขับรถเอง  : เราจองทุกวิถีทางแล้ว จนมาถึงวิธีสุดท้ายคือวิธีนี้ค่ะ เพราะว่าการจองแบบขับรถเองเนี่ย ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่จะขับรถเองน้อยมาก เพราะเป็นการขับรถในช่วงเวลากลางคืน และมีโอกาสเจอหิมะตก ทำให้มีคนจองน้อย โอกาสจะได้สูงกว่าแบบอื่น แต่การขับรถในญี่ปุ่นถึงแม้เป็นหิมะไม่ยากเท่าที่เราคิด เพราะถนนดี โค้งน้อย ทางสว่าง อุโมงค์ที่หลบหิมะเยอะมาก หิมะตกแล้วก็น่ากลัวน้อยกว่าฝนบ้านเราอีก แต่ต้องใช้ยาง Winter tire นะคะ

การเปิดจองแต่ละรอบ Full System 🛌 กลางเดือน สิงหาคม / Bus 🚌 ต้นเดือนตุลาคม / ขับรถเอง 🚗 ต้นเดือนตุลาคม ทางชิราคาวาโกะจะให้จองทีละรอบ และประกาศเรียบร้อยว่าคุณได้ไปหรือไม่ ค่อยเปิดจองรอบต่อไปค่ะ

ปล.ถ้าใครที่อยากจะไปจริงๆ แล้ววัดดวง เราแอบเห็นที่ Takayama มีติดประกาศไว้อยู่บ้างเหมือนกันค่ะ

3.การเข้างาน

จะใช้ แอพ peatix ต้องโหลดแอพเก็บตั๋วไว้ ไม่ใช้ปริ้นท์มานะคะ

4.ตอนขึ้น observation deck

จะต้องต่อคิวขึ้นรถ busอีกทีในหมู่บ้าน รถคันแรกออก 17.00 และเริ่มเปิดไฟตอน 17.30 ถึง 19.30 ค่ะ

Update ข้อมูลทั้งหมด ในปี 2020 เผื่อใครอยากจะไปกัน

1.วันจัดงาน

ปี 2020 จัดทั้งหมด 6 วัน เช่นกัน คือ  13, 19, 26 มกราคม และ 2, 9 ,16 กุมภาพันธ์ 2020 ยังคงเป็นช่วงมกราคม และกุมภาพันธุ์เช่นเดิม แต่หากอยากได้หิมะฟูๆ สวยๆ แนะนำว่าไปตอนมกราคมจะดีกว่ากุมภาพันธุ์ค่ะ

2.รอบการจองปี 2020

2.1 การนอนพักในหมู่บ้าน   : ปีนี้ เปิดให้จองได้ 2 แบบด้วยกัน แต่จะเป็นคนละระบบ คนละเจ้ากันเลย

2.1.1Gassho Travel : เป็นของทางผู้จัดงาน Light Up โดยตรงเลย
-นอน 1 คืน เฉพาะ คืนที่มี light up ได้
-เป็นการจองแบบ “Lottery” คือจะสุ่มคนที่ได้ค่ะ เหมือนซื้อหวยหน่อยๆ
-เข้าไปสมัคร Lottery ได้ตั้งแต่ #วันนี้ ถึง #30สิงหาคม (ก่อนเที่ยงคืน ตามเวลาญี่ปุ่น)
-ประกาศผลวันที่ 10 กันยายน
-จ่ายเงิน : ผ่านบัตรเครดิตใน 3 วัน หลังประกาศผล
-ราคาที่พักต่อคน : 12,000-15,000 เยน
-การสมัคร ส่งชื่อแค่ตัวแทน 1 คน แต่ระบุจำนวนคนให้ครบน้า
-สมัครที่ลิ้งค์ https://gassho-travel.com/en/lightup2020-accommodation/

 

หากใครจองแล้ว วันที่ 10 กันยา ประกาศมาว่าไม่ได้นอนของทางผู้จัดงาน แต่อยากนอนจริงๆ ก็มาจองข้อ 2.1.2 ต่อค่ะ

2.1.2  Shirakawago Terrace : เป็นของ Guest House อีกที่ ที่เปิดให้นอนได้ในคืน Light up
-ต้องจองห้องพักแบบ ” 3 วัน 2 คืนเท่านั้น” ถึงจะได้นอนได้ค่ะ
เช่น

2.1.2.1 January 12,13, 2020/ check out date 14 th

2.1.2.2 January 18,19, 2020/ check out date 20th

2.1.2.3 January 25,26 2020 /check out 27th

2.1.2.4 February 1,2, 2020 /check out 3rd

2.1.2.5 February8,9 2020/ check out 10th

2.1.2.6 Feburuary 15,16,2020/ check out 17th

-เปิดให้จอง #10กันยายนนี้ !!
-จองที่ https://www.booking.com/hotel/jp/shirakawago-hostel.htm

 

ในส่วนรอบการจอง รถบัส และที่จอดรถ จะประกาศที่หลังค่ะ แนะนำว่าใครต้องการที่จะไปเที่ยวในปี 2020 จริงๆ ควรกด Subscrite เพื่ออัพเดทข้อมูลตลอด (เหมือนเรา) จะได้ไม่พลาดกันค่ะ ที่ https://gassho-travel.com/en/lightup-event-2020-shirakawago/?fbclid=IwAR0V1vgRC5VfTivMniRZ1HZx-cDw6P0ZtIouYufjt0vok1cs-AxgOtb0C9A

แต่จากข้อมูลปีก่อน ช่วงเดือนที่จองน่าจะใกล้กับปีที่แล้ว คือ Full System 🛌 กลางเดือน สิงหาคม / Bus 🚌 ต้นเดือนตุลาคม / ขับรถเอง 🚗 ต้นเดือนพฤศจิกายน

แต่เราสองคนก็ยังจะมาอัพเดทในเว็บไซต์นี้ เพื่อให้เพื่อนๆ ได้ไปเที่ยวในสถานที่ในฝันกันค่ะ

ภาพบรรยากาศใน Shirakawo ช่วง Light Up Event

เราพูดเรื่องรายละเอียดการจองแน่นๆ ไปแล้ว มาดูภาพบรรยากาศวันงานในช่วงที่เราไปเมื่อปี 2019 กันดีกว่าค่ะ เผื่อว่าหลายๆ คนอาจจะอยากดูมุมถ่ายรูปไว้เป็นไอเดียกันค่ะ

 

ในส่วนของทริปนี้ เนื่องจากเราจอง Light up ได้รอบหลังสุด คือ การขับรถมาเที่ยว ทำให้ตอนแรกเราก็กังวลในเรื่องการขับรถช่วงหิมะตกมาก แต่พอเอาเข้าจริงๆ ไม่ยากอย่างที่คิดเลย เพราะถนนหนทางเค้าดี มีการเคลียร์หิมะตลอด มีอุโมงค์ทะลุภูเขา ทำให้ขับง่ายมาก ขอแค่เป็นยาง Winter tire จะหนึบกับถนนมากขึ้นฮ่ะ

และเรากลับมองมุมต่างว่า ช่วงฤดูหนาวเนี่ย ขับรถเถอะ เพราะระหว่างทางสวยมากกกกก อลังการทุกจุดเลย อย่างในรูปก็เป็นวิวข้างทางระหว่าง takayama มา shirakawago นะคะ

สำหรับที่จอดรถของคนที่ขับรถมาเอง จะไม่ใช่ที่จอดตรงใกล้ๆ สะพานนะคะ เค้าจะให้จอดบนเขา แล้วนั่งรถบัสลงมาอีกที

รถบัสก็จะจอดตรงนี้ค่า ทั้งขาไปขากลับเลย ในช่วง Light up คนก็จะยังเยอะอยู่ ถึงแม้จะมีการจำกัดคนแล้วววว

มุมบ้านสามหลังตรงนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของชิราคาวาโกะเลย เพราะเป็นบ้านที่ Symmetry กัน และด้านหลังเป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุม ตอนลงจากสะพานแล้วให้เดินไปทางขวามือค่ะ หากไม่แน่ใจก็ลองหาจาก Google map ว่า kanmachi หรือ 3 shimai ได้เลยค่ะ
ปล. Shimai แปลว่า พี่สาว/น้องสาว พอ 3shimai ก็เหมือนบ้านสามหลังพี่น้องกันนน

 

บ้านทรงกัสโซ ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติทั้งหมด ไม่มีการตอกตะปูแม้แต่ตัวเดียว และรูปร่างจะเป็นทรงสามเหลี่ยมกาง 60 องศา ชิราคาวาโกะสวยหลายมุมมาก ทั้งกลางวันกลางคืนเลย เอาเป็นว่าเผื่อเวลาไปกันเยอะๆ น้าาา

สิ่งที่เราชอบในฤดูหนาว ก็คือการที่หิมะปกคลุมหลังคาทุกหลังสวยงาม แต่มีความเยือกเย็นแหลมคมซ่อนไว้

เดี๋ยวเรามาดูภาพจากจุดชมวิวกันดูค่ะ ว่าในช่วง Light up สวยงามแค่ไหนนนนน

สุดท้ายนี้ก็ ขอให้เพื่อนๆทุกคนที่อยากไปงาน Light Up ที่ Shirakawago สามารถจองไปเที่ยวได้ทันตามที่ใจต้องการนะคะ ส่วนใครที่อยากหาข้อมูลรีวิวที่เที่ยวในต่างประเทศ ก็สามารถอ่านรีวิวของเราสองคนเพิ่มเติมได้ที่  https://www.lazycoup.com/category/travel/international/

ขอบคุณมากนะคะ 😀