ลิวงค์ สงขลา สวิตเซอร์แลนด์แดนจะนะ

ลิวงค์ สงขลา สวิตเซอร์แลนด์แดนจะนะ

ลิวงค์ แดนจะนะ

ที่นี่สงขลา มาเที่ยวไทย เหมือนได้ไปสวิตเซอร์แลนด์ กับ ลิวงค์ แดนจะนะ สถานที่เที่ยวใหม่ที่สวยงามดั่งต้องมนต์ ที่มี่วิวสวยๆ ธรรมชาติจัดๆ ทั้งทะเลสาบ ป่าสน ขุนเขา และสายหมอก ให้เราได้มาค้นหากัน ที่สำคัญเลยนะ หากเพื่อนๆ เป็นสาย Camping ชอบนอนกางเต๊นท์ ที่นี่สามารถมานอนพักได้นะ โดนใจแน่นอน! พร้อมแล้วเรามาทำความรู้จักกับสถานที่นี้กันเถอะ!

ไฮไลท์สถานที่

hilight ลิวงค์ สงขลา

ส่วนใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวในสงขลา เราแนะนำ มัสยิดกลางสงขลา อีกที่นะ สามารถคลิกเข้าไปอ่านได้เลยค่ะ >> มัสยิดกลางสงขลา ทัชมาฮาลเมืองไทย

:: ลิวงค์ แดนจะนะ คืออะไร ::

ลิวงค์ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ในอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาค่ะ เดิมที่ในพื้นที่บริเวณนี้ จะมีการทำสัมปทานเหมืองแร่ดีบุกต่างๆ มายาวนานกว่าร้อยปี แต่ในปัจจุบันมีการส่งต่อพื้นที่เหมืองแห่งนี้ จากรุ่นพ่อ สู่รุ่นลูก ทำให้ได้เกิดการฟื้นฟูพื้นที่กว่า 40 ปี และหยุดการทำเหมืองแร่ในพื้นที่ดังกล่าว และเปิดให้ทุกคนสามารถเที่ยวเชิงนิเวศน์ ชมความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด ที่นี่จึงถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ล่าสุด ที่สวยแปลกตา ประจำจังหวัดสงขลากันเลยทีเดียวค่ะ

จากเหมืองแร่เก่าที่มีคุณค่าทางจิตใจ ของ คุณสมเกียรติ พิทยาธรรม เจ้าของเหมืองลิวงค์ ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าประจำจังหวัดไปด้วยเช่นกัน ด้วยการพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ยาวนานต่อเนื่องกว่า 40 ปี ค่ะ

ลิวงค์ แดนจะนะ

:: การเดินทางมายัง ลิวงค์ แดนจะนะ ::

เพื่อนๆ ได้ดูภาพไฮไลท์ของที่นี่ไปบางส่วนแล้ว เราคิดว่าหลายๆ คนก็เริ่มอยากจะหาวิธีการเดินทางว่า ยาก หรือ ง่าย ขนาดไหน ในการมาชมความสวยงามของที่นี่ค่ะ ซึ่งเราจะขอเริ่มต้นจากตัวเมืองหาดใหญ่กันก่อน เพราะว่าเป็นจุดที่มีสนามบินหลากหลายสายลงรวมกันอยู่ตรงนี้ค่ะ โดยระยะทางคร่าวๆ จากตัวเมืองมายังทะเลสาบนี้ จะมีระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร หรือ ใช้เวลาในการขับรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมงนั่นเองค่ะ ถามว่าคุ้มค่าไหมในการเดินทางมา ส่วนตัวเราคิดว่าเป็น 1 ชั่วโมงที่คุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่ชอบเที่ยวแบบธรรมชาตินั่นเอง

แผนที่ ลิวงค์แดนจะนะ

Facebook ลิวงค์ แดนจะนะ

 คุณ วัน 065 046 1106 หรือ คุณ ดิว 095 4241492

:: ค่าใช้จ่ายในการเข้าชม ::

อย่างที่เราได้อธิบายเอาไว้แล้วในช่วงแรก ว่าที่นี่เป็นของพื้นที่เอกชน หรือ เหมืองแร่เดิม ทำให้ที่นี่จะมีการบริหารจัดการดูแลที่ดีเลยล่ะ มีความปลอดภัยมากๆ แต่ด้วยการที่มีการบริหารจัดการที่ดี จึงต้องมีการเก็บค่าเข้าชมเล็กๆ น้อยๆ ให้เอาไว้ใช้ดูแลสถานที่ค่ะ ซึ่งหากเรามาเข้าชมปกติไม่ได้นอนค้าง จะอยู่ที่คนละ 50 บาท แต่หากเรามานอนค้าง จะมีค่าใช้จ่ายคนละ 150 บาทนั่นเองค่ะ ซึ่งเพื่อนๆ ต้องนำเต๊นท์ของตัวเองมาเท่านั้นนะคะ

:: บรรยากาศโดยละเอียด ลิวงค์ ::

ต้องบอกเลยว่า ก่อนที่เราสองคนมากัน เราทราบแค่ว่าที่นี่มีต้นสน และมีทะเลสาบเท่านั้น และยังไม่เคยเห็นภาพกว้างๆ ของที่นี่มาก่อน จึงทำให้เรามีข้อมูลในการเที่ยวน้อยมากๆ ค่ะ ดังนั้น ครั้งนี้เราจึงมาชี้แจงรายละเอียดมุมต่างๆ และช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถ่ายรูปให้เพื่อนๆ กันค่ะ เพื่อเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆ สามารถวางแผนการท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้นนั่นเอง!

1. ภาพมุมสูง

เราขอเปิดมุมมองด้วยภาพโดรนมุมสูงของที่นี่กันค่ะ เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่า ที่นี่มีลักษณะภูมิประเทศโดยรวมเป็นอย่างไรนั่นเอง ซึ่งจากภาพมุมสูงนั้นจะเห็นได้ว่า บรรยากาศพื้นที่ของที่นี่กว้างใหญ่มาก มีทั้งความเขียวขจีของต้นไม้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต้นสน อยู่ท่ามกลางทะเลสาบ และโอบกอดไว้ด้วยภูเขาที่สวยงามเลยค่ะ

ที่นี่มีทางเข้าเพียงทางเดียวเท่านั้นนะ เป็นถนนหนทางคอนกรีตบางส่วน เพื่อให้สามารถนำรถขับเข้ามาได้ง่ายสะดวก และไม่ได้เทคอนกรีตทำถนนจนรบกวนความงามของธรรมชาติมากเกินไปนั่นเอง 

หากถามเราว่า ในช่วงเวลาไหนที่จะมาชมความงามของที่นี่ได้สวยที่สุด เราเองโหวตให้เป็นช่วงเช้า พระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 7 โมงค่ะ เพราะว่าจะเป็นสายหมอกลอยฟุ้งอยู่คู่กับภูเขา และหมอกเลียดผิวน้ำทะเลสาบ ที่เป็นช่วงเวลาที่เราคิดว่า สวยงามดังมีมนต์สะกดในพื้นที่นี้เลยค่ะ

ไม่จำเป็นต้องเช้าขนาดช่วงเวลา 05.00 น. นะ เพราะว่าพระอาทิตย์ขึ้นหลังภูเขา กว่าแสงจะผ่านมายังทะเลสาบ ก็ต้องใช้เวลาให้ดวงอาทิตย์พ้นเขาขึ้นเล็กน้อยค่ะ

2. เงาสะท้อนทะเลสาบ

เมื่อเราเดินเข้ามาบริเวณริมน้ำ เราจะสามารถมองเห็นภูเขา ต้นไม้สีเขียวที่ร่มรื่น พร้อมกับทะเลสาบที่สวยงาม บรรยากาศและภูมิทัศน์ต่างๆ ดีต่อใจมากจริงๆ ค่ะ โดยเฉพาะเมื่อเรามองในทะเลสาบ น้ำใสนิ่ง จนเกิดเงาสะท้อนน้ำของต้นสน ทิวเขา ลงบนผิวน้ำในทะเลสาบนั่นเองค่ะ ด้วยมุมแบบนี้นี่เอง ทำให้ที่นี่ได้รับขนานนามว่า เป็น สวิตเซอร์แลนด์ แดนจะนะ เลยค่ะ

ลิวงค์ สงขลา

ซึ่งหากเพื่อนๆ มาเที่ยวที่ลิวงค์ในยามเย็น ก็จะสามารถเห็นท้องฟ้าเปลี่ยนสี และทิวเขาสวยๆ จากที่นี่ได้เช่นกันค่ะ ทำให้ที่นี่สามารถมาเที่ยวรับชมความงามของธรรมชาติได้ทั้ง ช่วงเช้าพระอาทิตย์ขึ้น และช่วงเย็นพระอาทิตย์ตกได้เลยค่ะ ใครชอบบรรยากาศหมอกๆ ก็แนะนำให้มาช่วงเช้า แต่หากใครชอบบรรยากาศไม่รีบร้อน ก็มาตอนเย็นก็ได้ค่ะ

ลิวงค์ แดนจะนะ

3. ถ่ายรูป Portrait กับวิวสวยๆ

ด้วยบรรยากาศของสถานที่ ที่สวยงามมากอยู่แล้ว เราคิดว่าที่นี่ก็สามารถถ่ายภาพ Portrait ได้สวยไม่แพ้กันค่ะ โดยพื้นที่ตรงนี้สามารถมานอน แคมป์ปิ้ง กางเต๊นท์ได้ เราจึงหาพร็อพการแต่งตัวแบบสายแคมป์นิดนึง เน้นโทนสีชุดเป็นแบบ Earth Tone พร้อมเสื้อกัํกแคมป์ และหมวก Patagonia สักใบ จะได้เข้ากับบรรยากาศของที่นี่ค่ะ

นอกจากนี้ ก็ยังมีต้นไม้ให้เราสามารถปีนขี้นไปถ่ายรูป ที่มีฉากหลังเป็นเงาสะท้อนน้ำสวยๆ ได้ด้วยค่ะ

ถ่ายรูปมาด้วยบรรยากาศแบบนี้ ก็บอกตรงๆ ว่า ไม่คิดว่าอยู่ในไทยเลยค่ะ สวยสะกดมากจริงๆ นะ

ในส่วนของเพื่อนๆ ที่อยากดูบรรยากาศที่นี่ และการสอนถ่ายรูป Portrait ก็สามารถตามเข้าไปดูได้ที่ Youtube ด้านล่างนี้เลยค่ะ

สำหรับครั้งหน้า เราสองคนจะพาไปเที่ยวไหนอีก ก็อย่าลืมติดตามกันด้วยน้า 😀