24 Jul 76 ที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก เชียงใหม่ 2021 ครบจบโพสเดียว
“เชียงใหม่” ไม่ใช่จังหวัดแล้ว แต่เป็นประเทศ! เพราะที่จังหวัดนี้ มีสถานที่เที่ยวหลากหลาย ทั้งภูเขา น้ำตก ทะเลหมอก คาเฟ่ ร้านอาหาร โฮมสเตย์ โรงแรมห้าดาว ที่บอกเลยว่า แต่ละจุด แต่ละอำเภอ มีสถานที่เหล่านี้แอบซ่อนตัวอยู่เยอะมาก! ดังนั้น วันนี้เราสองคนจะรวมเอาสถานที่เที่ยว กิน พัก และอัปเดตตลอด แบ่งเป็นโซนให้ครบ เพื่อให้ทุกคนได้วางแผนเที่ยวเชียงใหม่ ตามสไตล์ที่ใช่ของตนเองกันได้ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ
ไฮไลท์เชียงใหม่ มีอะไรให้เที่ยว แบบไหนบ้าง มาลองดูภาพไปพลางๆ ก่อนนะ ที่แน่ๆ มีทั้งที่พัก ร้านอาหาร คาเฟ่ สวนดอกไม้ จุดชมวิวสวยๆ เพียบๆ แน่นๆ เลยล่ะ แล้วเดี๋ยวเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวเชียงใหม่กัน โดยแบ่งออกเป็นแต่ละอำเภอนะคะ จะได้ง่ายต่อการวางแผนเดินทางกัน
1. แม่ริม เชียงใหม่
สำหรับในโซนแม่ริมบอกเลยว่า เป็นสถานที่ใกล้กับตัวเมืองเชียงใหม่ สามารถเช่ารถขับมาได้เพียง 30 นาทีเท่านั้น และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย โดยเฉพาะในส่วนของสวนดอกไม้ค่ะ ทำให้ที่นี่เป็น Destination หลัก ของนักท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาวเลย ดังนั้นเราจึงขอพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับโซนแม่ริม เป็นลำดับแรกค่ะ
1.1 I Love Flower Farm
สำหรับ I Love Flower Farm เป็นฟาร์มสวนดอกไม้ที่จัดทำขึ้นโดย พี่ปุ้ย – ณวิสาร์ มูลทา ซึ่งคอนเซ็ปต์ของการทำสวนแห่งนี้ คือ ต้องการให้สวนดอกไม้ของเกษตรกรชุมชน ได้ปรับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด เพื่อให้ชุมชนนั้นมีรายได้ที่มากขึ้น กว่าการตัดดอกไม้ขาย และทำให้ชุมชนยังได้ทำในสิ่งที่รักให้มีมูลค่ามากขึ้นนั่นเองค่ะ ที่เราแนะนำที่นี่ก่อนในโซนนี้ เพราะสวนดังกล่าวเป็นต้นฉบับที่พลิกโฉมการท่องเที่ยวในแม่ริ่มอย่างมากค่ะ
สำหรับสวน I Love Flower Farm นั้น มักจะเปิดสวนให้บริการในช่วงเดือน ตุลาคม ถึง มีนาคม ของทุกปี ซึ่งในแต่ละปีทางพี่ปุ้ย จะมีการ Creative เรื่องของฉากถ่ายภาพ และชนิดของสวนดอกไม้ที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้หากใครต้องการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร เราเองก็แนะนำให้เข้าไปอัพเดททางเพจของ I Love Flower Farm จะดีที่สุดค่ะ
**ในภาพดอกไม้สีแดงส้ม เรียกว่าดอกซิโลเซีย เป็นดอกไม้นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นค่ะ
ที่นี่เป็นสวนฮ็อตฮิตประจำเชียงใหม่ ใครที่อยากจะไปก็ต้องซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้า มูลค่า 70 บาท ในราคาดังกล่าวมีน้ำเครื่องดื่มให้บริการด้วยค่ะ
สำหรับใครที่อยากดูบรรยากาศสวนในรูปแบบวิดิโอ และบทสัมภาษณ์ของพี่ปุ้ยเกี่ยวกับแรงบันดาลใจในการเปิดสวน ก็สามารถรับชมได้ในช่องทาง Youtube ของเราได้เลยค่ะ
0937418884
1.2 กลิ่นเกสร
ที่นี่เชียงใหม่ ไม่ใช่โพรว๊องซ์ กับ ทุ่งดอกมากาเร็ตขนาดใหญ่ โดยไฮไลท์ของที่นี่ คือ แปลงใหญ่มากกกก และมีทางเดินเป็นสะพานไม้ไผ่สลับช่องเว้นช่อง กับ แปลงดอกไม้ ทำให้เดินถ่ายรูปได้ง่าย หลบมุมคนได้สะดวกค่ะ และที่สำคัญนะ การปลูกดอกมากาเร็ตที่นี่ เค้าปลูกเป็นแถวยาวสุดลูกหูลูกตา ซึ่งจะมีการปลูกดอกไม้สลับกันระหว่างสีม่วง สีขาวค่ะ
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท / เด็ก 20 บาท สามารถนำบัตรเข้าชมไปแลกส่วนลด 5 บาท ซื้อกาแฟเครื่องดื่มได้ในคาเฟ่
ช่วงเวลาที่ดอกไม้บาน ประมาณ ตุลาคม ถึง มีนาคม โดยแต่ละปีจะมีช่วงเวลาบานไม่พร้อมกัน แนะนำให้สอบถามตามข้อมูลด้านล่างอีกครั้งค่ะ
0858161979
1.3 Kuv Niam Forest
สวนดอกมากาเร็ตสีม่วงขนาดใหญ่ยักษ์ ไร่กู๊เนียร์ฟอเรส อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 30 นาทีเท่านั้นค่ะ พร้อมพร็อพแน่นๆ อลังการ ทั้งสะพานไม้ไผ่ บ้านรังนก โต๊ะน้ำชา และวิวภูเขาสูงๆ ซึ่งที่สำคัญนะ เค้าปลูกดอกไม้ไล่โทนสีกันน่ารักมากเลย ชมพูอ่อน ชมพูเข้ม ม่วง-ฟ้า
เราไปสอบถามการปลูกดอกไม้มาให้นะ ปกติเค้าจะมีการปลูกสลับแปลงให้มีให้เข้าชมยาวๆ ตั้งแต่ช่วงกันยายน จนถึง มีนาคมเลยค่ะ
ที่นี่มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 50 บาท และละแวกสวนมีซุ้มง่ายๆ ขายส้มตำ อาหาร และเครื่องดื่มให้หลบร้อน บรรเทาหิวกันนะคะ
Facebook Kuv niam
1.4 สวนนา หน้าวัด
สวนนา หน้าวัด แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่มีดอกมากาเร็ตสีม่วงบานสะพรั่งล้นๆ ไฮไลท์ที่เราชอบ คือ มุมถ่ายรูปบันไดสวรรค์สวยมากกกกกก เป็นอารมณ์เดินกลางสวนดอกไม้ขึ้นไปสวรรค์เลย, ซุ้มม่านสีขาว เลิศค่ะ คือ เวลามีลมมันจะพริ้วสวยล้อกับชุดเราได้เลย
สำหรับที่นี่จะมีค่าเข้าชมมูลค่า 50 บาท ในละแวกนี้ไม่มีร้านอาหารและเครื่องดื่มให้บริการนะคะ
093 281 9922
1.5 Mori Natural Farm
ที่นี่เชียงใหม่ ไม่ใช่ ญี่ปุ่น นอนโฮมสเตย์แบบ เรียวกัง จูงหมา “อาคิตะ” เดินเล่นดงดอกไม้ กับ Mori Natural Farm โมริ เนเชอรัลฟาร์ม เชียงใหม่
โมริ เนชอรัล ฟาร์ม เป็นที่พักที่หนูอยากมานานมากแล้วค่ะ เพราะ บ้านพักทั้ง 4 หลัง ตกแต่งแตกต่างกัน ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นได้ลงตัว แถมยังมีสวนดอกไม้น่ารักๆ เต็มพื้นที่เนินเขา ให้เราถ่ายรูปได้สนุกสนานเลยค่ะ โดยไฮไลท์เด็ดสุดของที่พัก คือ น้องหมาอาคิตะทั้ง 3 ตัว และโกลเด้นท์ 1 ตัว มีชื่อ มิกิ โบชิ ฮาชิ และแม็กซ์ ซึ่งพี่ปอและพี่เมี่ยงที่เป็นเจ้าของที่นี่ จะจูงน้องๆ ออกมาต้อนรับแขกเป็นรอบๆ ให้เราถ่ายรูปคู่กันได้ค่ะ น้องทั้งสี่ตัวใหญ่ และขนฟูฟ่องอลังการมากค่ะ
ราคาห้องพัก
1.บ้านคอทเทจ 4500 บาท
2.บ้านหลองข้าว 4500 บาท
3.บ้านเรียวคัง 4800 บาท
4.บ้านโรงนา 6500 บาท : หลังนี้เป็นราคา 4 คนเลยนะ
ใครที่จองไม่ทัน มานั่งทานน้ำ/ขนม/ข้าว ได้นะ มีโซนคาเฟ่เปิดให้บริการอยู่ค่ะ
เพื่อนๆ ที่ชอบที่นี่ อยากดูรีวิวบ้านพักแต่ละหลัง และอยากอ่านเรื่องราวแรงบันดาลใจ สามารถกดเข้าไปอ่านต่อได้ที่ Mori Natural Farm เชียงใหม่ ฟาร์มสเตย์สไตล์ญี่ปุ่น
081 787 8595
1.6 North Star Valley
1.7 แคมป์ไม่มีชื่อ
1.8 สวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์
ห้ามพลาด !! มาเดินเล่นถ่ายรูปสวยๆ แนว Tropicalกันเถอะ ที่สวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ ที่นี่มีอาคารเรือนกระจกสวยๆ รวมเอาต้นไม้หลากหลายสายพรรณเข้ามาไว้ในที่เดียว ทั้ง Glass House จำลองป่าดงดิบ(คือ จำลองจนมีน้ำตกในอาคารเลยล่ะ) และอาคารพืชทนแล้ง ที่รวมเอากระบองเพชรน่ารักๆ (และแปลกๆ) ไว้เพียบเลย ส่วนใครชอบเดินที่สูงๆ เลียบต้นไม้ ก็อย่าลืมไปเดินเล่น Canopy Walk หรือ ทางเดินลอยฟ้าเหนือต้นไม้ พอได้มาเดินก็จะเห็นภูเขาสูงกับป่าไม้สวยงามในมุมที่ต่างไปจากเคยด้วย
ชอบอะไรเป็นพิเศษ : เรือนกระจก Cactus อลังการมาก / ทางเดินลอยฟ้า ชมวิวได้สวยๆ
053841234
1.9 Bai Orchid Cafe
คาเฟ่แอนด์บาร์สไตล์ยุโรป เป็นการผสมผสานระหว่างอิตาลีและไทยได้อย่างลงตัว ด้วยการจัดสวนสถานที่ร่มรื่นดูแล้วสบายตาผ่อนคลายจิตใจ เป็นที่นั่งพักจิบกาแฟชมบรรยากาศหรือจะสั่งเป็นอาหารจานหนักทางร้านก็มีบริการเช่นกัน รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ด้วยเป็นความหลากหลายที่ลงตัว “ครบจบในที่เดียว” นอกจากนี้ที่นี่ยังมีการเลี้ยงกล้วยไม้หลากหลายชนิดให้สามารถเข้าไปรับชมได้ด้วยค่ะ
0817841517
1.10 Ironwood Cafe
เราเข้ามาทานอาหาร และขนมที่คาเฟ่แห่งนี้ประมาณ 2-3 หนแล้ว โดยที่นี่แต่ละมุมสวยงามมาก นึกว่าเป็นสตูดิโอ มากกว่าร้านอาหารซะอีก เพราะพอเราเข้ามาก็เจอมุมสวยๆ ไว้ถ่ายรูปในร้านเยอะมากกกก และยังมีมุมที่นั่งแบบ outdoor ในสวนสวยให้เราใช้เวลาดีๆ กับเพื่อน และคนรักได้อย่างดีเลย เมื่อเราสั่งอาหาร อาหารแต่ละจานมีการตกแต่งสวยงาม เหมาะกับการถ่ายรูปอัพลง social มากค่ะ
0851117777
1.11 Terra Cafe
Terra and the Farmer’s Bar เป็นร้านอาหารที่ใส่ใจรายละเอียดกับวัตถุดิบต่างๆ มากๆ เพราะเมนูร้านอาหารจะเปลี่ยนวนไปในแต่ละฤดูกาล ร้อน หนาว ฝน ไปเรื่อยๆ ที่ต้องเปลี่ยนเมนู ตามแต่ละฤดูกาล เป็นเพราะว่า จะได้เอาพืชผัก ผลไม้สดๆ ใหม่ๆ มาทำอาหารให้อร่อยสดใหม่ด้วยเช่นกันนั่นเอง สำหรับเรา เราชอบในเรื่องของ รสชาติอาหาร / พนักงานน่ารักมาก บริการยอดเยี่ยม / บรรยากาศร้านแบบยุโรป เป็นพิเศษค่ะ
0989414149
1.12 ห้วยตึงเฒ่า
ห้วยตึงเฒ่า เป็นสถานที่ชมธรรมชาติ มาได้ง่ายและไม่ไกลจากเชียงใหม่มาก โดยที่นี่รถสามารถเข้าถึงที่เที่ยวได้เลยค่ะ ทำให้พาเด็กๆ หรือผู้สูงอายุมาเที่ยวได้สบายๆ ไม่ลำบาก โดยจะมีกิจกรรมหลายอย่างให้เที่ยวมาก ทั้งนั่งชมวิวอ่างเก็บน้ำสวยๆ เดินชิวทุ่งนา และถ่ายรูปเล่นกับคิงคองยักษ์ที่ทำจากฟางหากใครที่อยากจะนอนพักที่นี่ ก็สามารถนอนในบ้านชาวนาได้ ค่าใช้จ่าย 600 บาทต่อคืน
053121119
1.13 วัดป่าดาราภิรมย์ เชียงใหม่
หากใครมองหาความสงบสุดๆ เราก็แนะนำ วัดป่าดาราภิรมย์ ทั้งเงียบสงบ และงดงามด้วยศิลปะล้านนา ที่นี่เป็นวัดอารามหลวง สไตล์ล้านนา มีรอยพระพุทธบาทและพระบรมสารีริกธาตุภายในวัด และสถาปัตยกรรมในวัดสวยงามมากๆ โดยเฉพาะช่วงนี้มีการประดับโคมล้านนา เพื่อสืบสานประเพณียี่เป็ง ทำให้เราได้เยี่ยมชมวัดอย่างช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ อ่านคำสอนใจที่ติดไว้ตามต้นไม้ มาเที่ยวแล้ว..ได้อะไรกลับไปมากว่าที่คิด
053862890
2. ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ในส่วนของม่อนแจ่ม จะยังอยู่ที่อำเภอแม่ริมเช่นกันค่ะ แต่ทางเราขอแยกออกมาเป็นอีกหัวข้อหนึ่ง เนื่องจากบริเวณนี้จะเป็นการขึ้นภูเขามาอีกโซนหนึ่งเลย ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างเยอะกว่าที่อื่นของละแวกแม่ริมค่ะ โดยหากเราแนะนำคนที่อยากมาเที่ยวม่อนแจ่ม ควรจะพักบนดอยสักคืน เพื่อรอรับชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าค่ะ ซึ่งที่ม่อนแจ่มเองก็สามารถมานอนได้ในฤดูฝน และฤดูหนาวค่ะ
ฤดูฝน โอกาสเจอหมอกทั้งวัน ในส่วนฤดูหนาวจะมีอากาศที่เย็นสบาย แต่หมอกอาจจะต้องลุ้นกันสักหน่อยค่ะ
2.1 ภูดอยโฮมสเตย์
โฮมสเตย์แรกที่เราเองแนะนำ คือ ภูดอยโฮมสเตย์ค่ะ ที่นี่เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบดอกไม้ ชอบภูเขา ชอบหมอก ชอบนอนเต็นท์ และชอบหมูกระทะ !!! ถ้าชอบทั้งสี่อย่างนี้นะ บอกเลยว่าต้องมานอนที่นี่เลยค่ะ เพราะที่พักนั้นจะมีสวนดอกไม้ขนาดใหญ่แทรกตัวตามเต๊นท์เลย บรรยากาศสวยงามมากค่ะ
นอกจากนี้ที่นี่ก็มีให้บริการทั้งแบบเต๊นท์กระโจม และบ้านพักเป็นหลังๆ ซึ่งไม่ว่าจะพักแบบไหน มีห้องน้ำส่วนตัว และน้ำอุ่นให้อาบนะคะ โดยราคาจะอยู่ที่บ้านกล่อง 1990 บาท และเต็นท์กระโจม 1790 ราคานี้ รวมอาหารเช้าแล้วด้วยค่ะ (ราคาห้องพักมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดู และโปรโมชั่นนะคะ แนะนำให้ลองอัพเดทในเพจอีกทีนะ)
0987926492
2.2 ไร่ดอกลมหนาว
เอาใจสาวๆ ชอบดอกไม้กันบ้าง กับ ทุ่งดอกไม้ในละแวกม่อนแจ่มที่เราแนะนำให้มา ก็คือ ไร่ลมหนาว นั่นเองค่ะ โดยหลักๆ แล้ว ไร่นี้จะดังเรื่องเวอร์บีน่า แต่เอาจริงๆ แล้ว มีดอกไม้อีกหลากหลายชนิดเลยค่ะ ทั้งคอสมอส ทานตะวัน ฯลฯ ซึ่งจะอยู่ตามทิวเขา หากมาตอนเช้าๆ ก็จะเห็นหมอกด้วยค่ะ เราชอบสวนนี้เพราะสวนมีขนาดใหญ่มาก และดอกไม้มีหลายชนิดเลยค่ะ
087 192 9020
2.3 สวนดอกเก๊กฮวย ม่อนแจ่ม
วิ่งเล่นในทุ่งดอกเก๊กฮวย สีเหลืองอร่าม สวยแน่น เต็มเขา เราถ่ายรูปได้น่ารักกลางลมหนาว กับ สวนดอกเก๊กฮวย ม่อนแจ่ม
ไฮไลท์ของสวนนี้ที่เราชอบ คือ ดอกเก๊กฮวยเป็นสีเหลืองทั้งหมด ทำให้เราเห็นเป็นสีเหลืองอร่ามสวยสดใสมากค่ะ ที่สำคัญ คือ ตรงจุดนี้มีการปลูกเป็นแถวไล่ระดับความสูงต่ำของเนินเขาค่ะ ทำให้ถ่ายรูปมาได้หลากหลายมุม และสามารถถ่ายออกไปเห็นเป็นภูเขาได้เลยนะ โดยมีค่าเข้าบำรุงสวน ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
Facebook สวนดอกเก๊กฮวย ม่อนแจ่ม
062 296 4504
2.4 บ้านภูหมอก
3. แม่ลาย แม่กำปอง
สำหรับโซนต่อไป ก็จะเป็นโซนที่นิยมกันมากปัจจุบันนี้ค่ะ เนื่องจากเป็นชุมชนที่เงียบสงบ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ลำธาร และมีต้นไม้ขนาดใหญ่เยอะมากค่ะ โดยช่วงเวลาที่เราแนะนำให้มาที่นี่ คือ ช่วงหน้าฝน และหน้าหนาว แต่หากเพื่อนๆ มาเที่ยวในช่วงหน้าหนาว จะมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะมากในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ค่ะ โดยที่นี่จะมีทั้งชุมชน ร้านอาหาร คาเฟ่ และที่พักน่ารักซ่อนตัวอยู่เยอะมากค่ะ สามารถเข้ามานอนพักที่นี่ได้ 2-3 คืนได้เลยค่ะ
3.1 ชุมชนแม่กำปอง
แม่กำปองเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีความฮิปมากในเชียงใหม่ค่ะ ที่นี่จะมีทั้งธรรมชาติแน่นๆ ทั้งน้ำตก ลำธาร ป่าไม้ จึงเหมาะกับคนที่ชอบธรรมชาติและความเรียบง่ายของชุมชนมากๆ เลย โดยสถานที่แนะนำในละแวกนี้ คือ
ระเบียงวิวคาเฟ่ ผาน้ำลอด วัดแม่กำปอง น้ำตกแม่กำปองค่ะ และอย่าลืมทานไส้อั่วแม่นิ่ม ไปจนถึงอาหารท้องถิ่นกันด้วยนะคะ
3.2 อุสาชงที่บ้าน
จิบกาแฟ แช่เท้าริมลำธาร บรรยากาศ บ้านเล็ก ในป่าใหญ่ เงียบสงบ จนต้องหลงรัก กับ อุตสาชงที่บ้าน แม่ลาย จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแม่กำปองสักเท่าไหร่ค่ะ ควรค่าแก่การมาด้วยกันเลยน้า โดยไฮไลท์ของที่นี่ คือ ตัวบ้านน่ารักมากค่ะ เป็นบ้านไม้เล็กๆ ตั้งอยู่ริมลำธาร ทำให้เราได้จิบกาแฟไป ฟังเสียงลำธารไป และยังร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ รสชาติของขนมและเครื่องดื่มก็ดีงามไม่แพ้บรรยากาศเลยนะ
ส่วนตัวเราเองชอบในเรื่องของ ร้านน่ารัก/ เงียบสงบ/ ลำธาร/กาแฟ ขนมอร่อย เป็นพิเศษค่ะ
Facebook อุสาชงที่บ้าน
0956750466
3.3 Teddu Inn
ร้านกาแฟ ที่เป็นมากกว่าร้านกาแฟ พื้นที่กว้าง เสมือนเป็นป่าของตัวเอง จะกิน จะดื่ม จะนอนพัก ก็มาได้ กับ Teddu coffee แม่กำปอง ที่นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟทีเด็ดของแม่กำปองค่ะ ซึ่งร้านนี้ เป็นร้านที่ตั้งอยู่ริมถนน และเราจะต้องเดินลงจากสะพานลงมา เพื่อซื้อเครื่องดื่มด้านล่างค่ะ ความรู้สึกของเรา ตอนเดินลงมาจากด้านบน เรารู้สึกว่าที่นี่เป็น Hidden Gem มากๆ เพราะดูด้านบนเหมือนไม่มีอะไร แต่พอเดินลงมาเท่านั้นแหละค่ะ มีทั้งน้ำตก ลำธาร ป่าใหญ่ และสะพานแขวน ที่สวยมาก!! นั่งชิว และถ่ายรูปได้ไม่มีเบื่อเลยจริงๆ
นอกจากเป็นร้านคาเฟ่แล้ว ที่นี่ยังเปิดให้เข้าพักได้ด้วยนะคะ
095 893 5237
3.4 The Giant
จิบกาแฟ บนบ้านต้นไม้ ดูวิวป่า ชมสะพานแขวน กับ The Giant เชียงใหม่ โดยที่นี่เป็น คาเฟ่บนต้นไม้ใหญ่ที่บอกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่ถ้ามาเที่ยวแม่กำปอง-แม่ลาย ต้องมาค่ะ ที่นี่เหมาะมากสำหรับคนรักธรรมชาติ เวลาจะเข้ามาทานคาเฟ่ต้องเดินข้ามสะพานแขวนผ่านต้นไม้ใหญ่ค่ะ
086 776 2946
3.5 My Cottage
บ้านเล็ก ริมธารน้ำใส นอนสบาย ใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมบรรยากาศ เงียบสงบ กับ My Cottage Chiangmai
มานอนฟังเสียงลำธารด้วยกันมั้ย? กับ ที่พักสไตล์มินิมอล นอนสบาย แถมยังใกล้ชิดธรรมชาติมากด้วย ใครที่หลงรักความเรียบง่าย เงียบๆ Slow Life เราว่าที่นี่ตอบโจทย์มากค่ะ โดยไฮไลท์ ที่เราคิดว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่ คือ ห้องพักนอนสบายสุดๆ ในย่านนี้ ห้องพักไม่ได้ติดแอร์นะ แต่หนาวมาก แถมยังได้ฟังเสียงน้ำไหลตอนกลางคืน คือ หลับสบายสุดๆ ไปเลยค่ะ และที่สำคัญ คือ มุมเปลตรงลำธารนั้น ชิวมากจริงๆ แค่นั่งอยู่มุมนี้ ก็กินเวลาไปเยอะแล้วค่ะ
ราคาของบ้านพัก บ้านหลังเล็ก มี 2 ห้อง 2,750 บาท (พักได้ 2-4 คน) และห้องพักใหญ่ มี 1 ห้อง 4,750 บาท (พักได้ 4-6 คน) ช่วง High Season ราคาจะมีการปรับเพิ่มจากนี้นะ
Facebook My Cottage
062 491 4424
3.6 Lan Na Wild
นอนเต๊นท์หรู แนวยิปซี บรรยากาศดี๊ดี กลางป่าใหญ่ พร้อมแช่ออนเซ็นแบบ ส่วนตัว กับ Lan Na Wild จ.เชียงใหม่ ที่นี่เป็นอีกหนึ่่งที่พัก สไตล์ Glamping สุดหรู อยู่กลางทิวเขา สายหมอก และป่าใหญ่ ที่เราคิดว่า โรแมนติกมากกกก เหมาะกับคู่รัก และสายถ่ายรูปไอจีสวยๆ ค่ะ โดยไฮไลท์ของที่นี่ คือ เป็นที่พักสไตล์ Glamping ค่ะ โดยเต๊นท์ที่เราเลือกเข้าพักจะออกแบบเป็นสองชั้น ซึ่งเราชอบมากกก เพราะชั้นสองจะมีหน้าต่างวงกลม ถ่ายรูปออกมาจะดูแบบ ยิปซีๆ กลางป่า เห้ย!! มันเก๋มากอ่ะ นอกจากนั้นยังมีอ่างจากุซซี่ ที่ทำน้ำร้อนได้ให้แช่หน้าบ้านเลย เสมือนเป็นออนเซนลับๆ กลางป่าค่ะ
ที่นี่เป็นโซนเดียวกับแม่กำปอง ดังนั้นใครแพลนมาเที่ยวแม่กำปอง ก็สามารถมานอนเก๋ๆ ที่นี่ได้เช่นกันค่ะ หรือจะแวะมาทานข้าวเฉยๆ ก็มีโซนคาเฟ่ ให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม และขนมด้วยนะ
089 143 9225
3.7 Jumtla Campiness
กางเต๊นท์ ริมธาร หลับฟัง เสียงสายน้ำ พร้อมขันโตกอาหารเหนือ กับ Jumtla Campiness แม่กำปอง เชียงใหม่ ใครที่อยากมาเที่ยวแม่กำปอง แต่ไม่อยากไปวุ่นวายในโซนละแวกนั้น เราก็แนะนำให้มานอนที่นี่เลยค่ะ ซึ่งจะอยู่ก่อนถึงแม่กำปองนิดๆ ค่อนข้างเงียบสงบกว่ามากเยอะเลยค่ะ โดยไฮไลท์ของที่นี่ คือ บรรยากาศดีมาก เต๊นท์ทุกหลังจะอยู่ริมลำธาร ทำให้อากาศค่อนข้างเย็น นอนหลับสบายตลอดทั้งคืน และยังมีอ่างอาบน้ำสวยๆ ให้แช่น้ำไป ชมสายน้ำไหลไปได้พร้อมกันฟินๆ ค่ะ ที่สำคัญ ขันโตกมื้อเย็น คือ เลิศมากค่ะ นั่งกินข้าวกับแฟนบรรยากาศแบบนี้ ชื่นช่ำใจมากเลยยยย
0818065444
4. เชียงดาว เชียงใหม่
สำหรับในพื้นที่ของเชียงดาว จะอยู่ทางด้านตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ เป็นสถานที่ ที่อาจจะไกลในส่วนของตัวเมืองพอสมควร แต่รับประกันว่าโดนใจสายรักธรรมชาติ ที่อยากมาพักผ่อน ใช้ชีวิตเงียบๆ และรักความเป็นส่วนตัวค่ะ
4.1 Isbjorn
ที่นี่เชียงใหม่ ไม่ใช่สวิตเซอร์แลนด์ นอนหรู โดมใส ใกล้ทะเลสาบ อาบน้ำแช่จากุซซี่ พร้อมวิวดี๊ดี ดอยหลวงเชียงดาว กับที่พักเปิดใหม่ Isbjørn โรแมนติกมาก!! เรารับประกันเลยว่าโดนใจสำหรับทุกคู่รัก ทุกห้องพักจะเป็นเต๊นท์โดมใส หรูหราติดแอร์เย็นฉ่ำ พร้อมห้องน้ำส่วนตัวแยกออกมาจากโดม และที่สำคัญ คือ มีอ่างจากุซซี่ แช่ชิวๆ ดูวิวภูเขาดอยหลวงเชียงดาวสวยๆ ซึ่งมีเพียงสิบห้องเท่านั้นค่ะ โดยทุกห้องจะอยู่ติดทะเลสาบหมด แยกระยะห่างออกจากกันอย่างเป็นส่วนตัวค่ะ นอกจากห้องพักจะเลิศแล้ว วิวต่างๆ รอบทะเลสาบ คือ สวยมาก เค้าปลูกต้นสนรอบทะเลสาบ น้ำนิ่งๆ เกิดเป็นเงาสะท้อนก้อนเมฆและต้นไม้ได้สวยงามมาก จนเหมือนอยู่สวิตเซอร์แลนด์ย่อมๆ ได้เลยค่ะ สามารถมาพายเรือคายัคชมวิว หรือ ปั่นจักรยานรอบๆ ก็ได้นะ
ราคาห้องพัก 6,500 บาท/คืน ราคานี้รวมหมดทุกอย่าง ทั้งอาหารเย็น อาหารเช้า ไวน์แดง มินิบาร์ bubble bath พร้อมผู้ดูแลประจำบ้าน 1 คนค่ะ ซึ่งคนที่มาดูแลเราเนี่ย จะดูแลเราห้องเดียวเลยค่ะ ราคานี้ เทียบกับเซอร์วิส อาหาร วิวโหดๆ เราว่าคุ้มมากนะ ควรมาจ้า
082 295 7802
4.2 บ้านต้นไม้แม่แมะ
หนีความวุ่นวายไปนอนฟังเสียงน้ำไหล กับบ้านต้นไม้ ที่ปลีกวิเวกที่สุดในเชียงใหม่ กับ บ้านต้นไม้แม่แมะ เชียงดาว แค่ 750/คน พร้อมอาหารเช้า-เย็น ให้ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนสามารถมาปล่อยใจ ปล่อยกายสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติ และผืนป่า กับ บ้านต้นไม้แม่แมะ เชียงดาว เชียงใหม่ ที่นี่ไม่มีแอร์ แต่ บรรยากาศตอนกลางคืนเย็นสบาย และยังสามารถมาก่อกองไฟเล็กๆ ได้เลยค่ะ
081 958 5601
5. แม่แตง เชียงใหม่
ในโซนทางตอนเหนือที่ถือว่ายังไม่ไกลมากจากตัวเมืองเชียงใหม่ และสามารถเดินทางไปในส่วนของเชียงดาวได้สะดวก ก็คือ โซนแม่แตงนั่นเองค่ะ โดยในโซนนี้ ปัจจุบันมีโฮมสเตย์ใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะมาก เพราะอยู่ติดกับลำธาร ภูเขา ที่ทำให้บรรยากาศการเข้าพักได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากค่ะ
5.1 ไร่ชาลุงเดช
นอนกลางเขา จิบชากลางหมอก กับบรรยากาศที่บอกเลยว่าต้องตกหลุมรัก กับ ไร่ชาลุงเดช ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ เพียง 30 นาทีเท่านั้น แต่บอกเลยว่าบรรยากาศที่ได้กลับไปคุ้มค่าประทับใจแน่นอนค่ะ เพราะที่นี่เป็นทั้งที่พัก ร้านอาหาร คาเฟ่ ในสไตล์คนในชุมชนดูแลเองค่ะ ช่วงเวลาที่สวยที่สุด คือ 6.30 – 9.00 จากที่เราไปจะเห็นว่าหมอกมาตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเลย และค่อยๆ จางไปจน 9.00 หมอกก็หมดเลย ถ้าใครอยากได้รูปกับสายหมอกแบบเรา เราก็เชียร์ให้นอนพักดีกว่า เพราะขับรถขึ้นเขาเช้ามืดก็อาจจะอันตรายได้
ราคาบ้านพัก จะมีรูปแบบหลายหลังค่ะ บ้านเอเฟรม 800 ต่อคืน / บ้านพักเรือนแถว 600 ต่อคืน/ เต๊นท์หลังละ 250 ต่อคืน แต่หากไม่เข้าพัก ก็แวะมาทักทายทานอาหารได้น้า
สามารถอ่านดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ ไร่ชาลุงเดช นอนกลางเขา จิบชากลางหมอก
081-163-3765
5.2 ธรรมดา โฮมสเตย์
นอนแช่อ่าง กลางหมอก หลับง่าย นอนสบาย ในหน้าหนาว กับ บ้านธรรมดา ที่วิวไม่ธรรมดา อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
อยากใช้เวลาช้าๆ เรียบง่าย กับใครสักคน ต้องมาที่นี่เลยค่ะ เพราะที่นี่เป็นบ้านพักหลังเล็กๆ ที่ทำให้เราตื่นเช้ามาเจอสายหมอกได้ทุกวันนั่นเองค่ะ และบางห้องพักก็มีอ่างอาบน้ำ ที่บอกเลยว่า ถ่ายรูปออกมาเลิศที่สุดเลย ซึ่งในขณะนี้มีบ้านพัก 4 หลังเท่านั้นนะคะ บ้านจุดเริ่มต้น/ บ้านอบอุ่น/ บ้านพอดี /บ้านความฝัน
**บ้านพอดี และบ้านความฝัน มีอ่างอาบน้ำนะคะ แต่วิวหน้าห้องพักทุกหลัง เห็นทิววิวเขาสวย และหมอกปังได้เหมือนกันค่ะ
Facebook บ้านธรรมดาโฮมสเตย์
062 535 9978
5.3 ดอยม่อนเงาะ
มาไร่ชาลุงเดชแล้ว อีกสถานที่ใกล้ๆ ไม่ไกลกันมากก็คือ ดอยม่อนเงาะ เป็นอีกดอยที่เราว่าสวยมากค่ะ เพียงแค่เราชมวิวจากที่จอดรถ ก็จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นกับหมอกในตอนเช้าแล้ว และเดินไปอีก 300 เมตรก็จะเจอลานชมวิวแบบ Panorama สวยๆ อีกมุมด้วยค่ะ ใครที่ไม่ใช่สายเดินป่า และอยากมาชมวิวชิวๆ เราก็แนะนำที่นี่เลยค่ะ แต่ทางบางส่วนรถสวนกันไม่ได้ อาจจะต้องระวังกันนิดนึงนะคะ
5.4 เฮือนฮิมน้ำ
ใครที่อยากมาม่อนเงาะ หรือไร่ชาลุงเดช แต่อยากนอนพักสบายๆ ห้องพักฮิป ราคาไม่แรงมาก ก็สามารถมานอนที่ เฮือนฮิมน้ำ ได้นะคะ ห้องพักน่ารักๆ นอนริมลำธาร และราคาไม่แรงด้วยค่ะ แค่ 650 บาทต่อคน รวมอาหารเช้าและเย็นเรียบร้อยแล้วน้า ส่วนใครที่ขับรถเก๋งมา หรือไม่คุ้นเคยเรื่องเส้นทางไปม่อนเงาะ ก็สามารถคุยกับทางที่พักให้พาไปได้นะคะ
081-2870808
5.5 Stay Wild and Cafe
Stay wild & Café เป็นทั้งคาเฟ่ และที่พัก บรรยากาศริมน้ำ อากาศเย็นๆ เหมือนมา Camping และตัดขาดจากโลกภายนอกมากค่ะ หากใครที่ไม่ได้เข้ามาพัก ก็แนะนำให้มาทานอาหารกลางวันสักมื้อ แล้วเดินเล่น นั่งชิว เอาขาจุ่มน้ำได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครที่เข้ามาพัก เท่าที่ทราบก็มีกิจกรรมหลายอย่างเลยค่ะ เช่น ล่องแพยาง นั่งเกวียนวัว ให้อาหารช้าง ล่องแพไม้ไผ่ อาบน้ำช้าง ปั่นจักรยาน ขับรถATV ฯลฯ
089 441 6365
5.6 Wowda Homestay
นอนกลางหมอก แช่อ่างกลางดอย กับ Wowda Homestay เชียงใหม่ ที่นี่เป็นที่พักแนวแคมป์ปิ้ง ที่โดนใจสายไอจี ค่ะ โดยไฮไลท์ของที่นี่ คือ ห้องนอนสบาย มีอ่างอาบน้ำเก๋ๆ ให้ถ่ายรูปคู่กับสายหมอกในตอนเช้านั่นเองค่ะ ซึ่งห้องพักที่เข้าพัก จะมีห้องน้ำส่วนตัวแยกให้ทุกห้องเลยนะคะ
093 048 0355
5.7 ภูสันฟ้า
5.8 วัดบ้านเด่น
“วัดเด่นสะหรีศรีเมืองแกน” เป็นชื่อเต็มๆ ของวัดนี้ค่ะ โดยวัดบ้านเด่นมีความสวยงามวิจิตรงดงามมากกก เพราะที่นี่จะมีรูปปั้น/แกะสลักเป็นสัตว์โบราณในวรรณคดีของไทยเยอะหลากหลายมากค่ะ แถมยังอยู่บนเนินเขา ทำให้เราเห็นวิวทุ่งหน้า หมู่บ้านได้อย่างสวยงามเลยค่ะ
0819612396
5.9 สวนสนสองใบ
สวนผลิตเมล็ดพันธุ์ไม้สนสองใบ เป็นสวนสน ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มาก ขับรถมาง่าย แถมทางเข้าก็ยังติดกับถนนใหญ่ด้วย เหมาะมากสำหรับการนำเอาเดรสสีขาวพลิ้วๆ มาเดินชิวในป่าสน หรือถ้าใครชอบเล่นกีต้าร์ ก็พกมาดีดชิวๆ ให้สดชื่นได้เลย ที่นี่สามารถขับรถจอด เดินเล่นเที่ยวชมความสวยงามได้ง่าย และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ
5.10 ห้วยน้ำดัง
ห้วยน้ำดัง เป็นอุทยานแห่งชาติที่สุดแสนจะสวยงามด้วยธรรมชาติ และโรแมนติกมากอีกแห่งในประเทศไทยค่ะ ซึ่งคนที่มาที่ห้วยน้ำดัง ก็สามารถจองบ้านพักอุทยาน หรือ นอนกางเต็นท์ก็ได้นะคะ ซึ่งกลางคืนเห็นดาว และตอนเช้าก็มีทะเลหมอกมาทักทายกันหน้าเต๊นท์เลยค่ะ
0849081531
5.11 ไร่ชาอารักษ
ไร่ชาอารักษ เป็นอีกหนึ่งไร่ชา Organic ที่ Unseen สุดในเชียงใหม่ค่ะ การมาเชียงใหม่สำหรับใครหลายๆ คน กิจกรรมที่น่าทำมากที่สุดอย่างหนึ่ง คือ การเดินเล่นชิม ช็อป ชา นี่แหละค่ะ ในไร่นี้ จะมีไกด์ท้องถิ่น พาเดินชมไร่ และให้ความรู้เรื่องใบชาทั้งหลายอย่างใกล้ชิด สนุกสนานกันมากเลยค่ะ เราชอบ บรรยากาศไร่ชา/ไกด์/การจิบชา ของที่นี่เป็นพิเศษเลยค่ะ
0877037326
6. ฝาง เชียงใหม่
สำหรับอำเภอฝาง เป็นอำเภอเล็กๆ ที่อยู่ตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ สำหรับที่นี่ก็จะมีที่เที่ยวแนวธรรมชาติเยอะมาก หลักๆ เลยจะเป็นพื้นที่ของสถานีเกษตรหลวงที่เปลี่ยนจากการปลูกฝิ่น มาทำสถานีทดลองไม้เมืองหนาวด้วยค่ะ
6.1 สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ขอบอกว่า ณ จุดๆ นี้ มีแหล่งท่องเที่ยวข้างในหลากหลายสถานที่มว๊ากกก (เรือนดอกไม้ / เรือนกุหลาบตัดดอก / สวนบอนไซอ่างขาง / โรงงานชาอ่างขาง / แปลงรวบรวมพันธุ์ไผ่อ่างขาง /อาคารศูนย์ข้อมูลอ่างขาง /สวน ๘๐ /สวนคำดอย / สวนหอม / สวนกุหลาบอังกฤษ / สวนสมเด็จ /แปลงบ๊วย /โรงเรือนรวบรวมพันธุ์ผักเมืองหนาว /แปลงสาธิตไม้ดอกกลางแจ้ง/
โรงเรือนกุหลาบตัดดอก /พระธาตุดอยอ่างขาง / บ้านขอบด้ง / บ้านนอแล ฯลฯ) มาที่นี่ที่เดียว สามารถเที่ยวแบบฟินๆ ได้ประมาณ 2 วันเลยนะคะ
053969476
6.2 จุดชมวิวม่อนสน
จุดชมวิวม่อนสน เป็นอีกสถานที่ที่ Unseen มากๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ โดยที่นี่สามารถมานอนกางเต็นท์ดูดาว และชมทะเลหมอกในยามเช้าค่ะ เป็นจุดที่โดนใจคนที่รักธรรมชาติมากๆ โดยจุดชมวิวม่อนสนนี้จะอยู่ในส่วนของพื้นที่อุทยานดอยผ้าห่มปกนั่นเองค่ะ
6.3 บ้านนอแล
บ้านนอแลเป็นสถานที่เหมาะกับคนชอบถ่ายภาพแนว Landscape มากค่ะ โดยเราสองคนก็แนะนำให้มาในช่วงตอนเช้า เพราะว่า ตรงนี้เวลาพระอาทิตย์ขึ้นจะสวยมากๆ มีไร่สตอร์เบอร์รี่ที่ปลูกกันสลับเป็นขั้นบันได และทะเลหมอก!!! โหย บอกเลยว่า สวยและโรแมนติกมากจริงๆ ค่ะ สตอร์เบอร์รี่ ตรงนี้ราคาก็ถูกมากด้วยนะ สายผลไม้เบอร์รี่แบบเราจะพลาดได้อย่างไรล่ะ !!
7. ตัวเมือง เชียงใหม่
ในส่วนของตัวเมืองเชียงใหม่นั้น จะเป็นศูนย์กลางในการเดินทางหลักของนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีสถานบินนานาชาติอยู่ด้วย ทำให้ที่นี่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ที่พัก ต่างๆ เกิดใหม่ขึ้นเยอะมาก และแต่ละที่ก็มี Concept ที่แตกต่างกันด้วยค่ะ ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปรู้จัดในตัวเมืองกันค่ะ
7.1 Chom Cafe
ใครที่ชอบหมอก แต่ไม่อยากไปป่า ก็ลองมาคาเฟ่นี้กันค่ะ กับ Chom Café เป็นคาเฟ่แบบป่าดิบชื้น ที่มีการปล่อยควันหมอกออกมาตลอดเวลา และมีมอส เฟิร์น ต้นเล็กๆ ตกแต่งคู่กับน้ำตกจำลองด้วยค่ะ โดยช่วงเวลาที่มาแนะนำให้มาตั้งแต่ช่วงร้านเปิด (ประมาณ 11.00 น.) และวันธรรมดาค่ะ เพราะนักท่องเที่ยวจีนค่อนข้างเยอะมาก เป็นมุมฮิตใน Instagram ด้วยค่ะ
065 438 8188
7.2 42 Garden Cafe
7.3 Baristo At Ping River
เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่น่ารัก มีความโฮมมี่ ลอฟท์ และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติค่ะ สำหรับการตกแต่งด้านในอาคารจะเน้นปูนเปลือย ไม้ ความดิบ และการโชว์ผิวของวัสดุก่อสร้าง เน้นโทนสีสีขาว น้ำตาล และสีเทา ในส่วนบรรยากาศด้านนอกก็มีแม่น้ำปิงไหลผ่านอีกด้วยค่ะ นอกจากบรรยากาศจะดีแล้ว ขนม เครื่องดื่มเป็นอะไรที่อร่อยมากค่ะ
Facebook The Baristro at Ping River
087 788 2788
แผนที่ The Baristro at Ping River
7.4 The Baristro at train station
สำหรับ The Baristro สาขานี้เป็นสาขาที่ 6 ของแบรนด์เลยค่ะ ซึ่งจะอยู่เยื้องกับสถานีรถไฟเชียงใหม่ ทำให้ชื่อของสาขา คือ The Train Station นั่นเองค่ะ โดยคอนเซ็ปต์การตกแต่งสถานที่ จะเป็นอาคารสไตล์ลอฟท์ดิบๆ ที่โชว์พื้นผิววัสดุต่างๆ ทั้งปูนเปลือย ไม้ โต๊ะเก้าอี้สีดำ ที่ทำให้มีสเน่ห์แบบลอฟท์และมินิมอลเท่ๆ ได้อย่างลงตัวค่ะ โดยรวมร้านค่อนข้างมีขนาดใหญ่ และมีที่จอดรถสะดวกสบายค่ะ
Facebook The Baristro at Train
0653541963
7.5 ประตูท่าแพ
ประตูท่าแพ เป็นแลนด์มาร์กสำคัญประจำจังหวัดเชียงใหม่เลยค่ะ สร้างขึ้นครั้งแรกในรัชสมัยพญามังราย เป็นประตูเมืองเก่าแก่ทำจากอิฐมอญสีส้มทอดยาว ให้เดินเล่นพร้อมถ่ายรูปแบบชิคๆ ได้หลายมุมเลย
ปัจจุบันนี้ ประตูดังกล่าวกลายเป็นจุดตั้งต้นของถนนคนเดินท่าแพในช่วงวันอาทิตย์ และยังเป็นลานกว้างๆ เอาไว้จัดกิจกรรมประจำเมืองเชียงใหม่ด้วยค่ะ แต่หากใครมาเที่ยวช่วงเช้าแบบเรา ก็สามารถเดินเล่นถ่ายรูปคู่กับกำแพงเมือง และรถแดงได้อย่างลงตัวเลยค่ะ
7.6 Na Nirund
พักริมแม่น้ำปิง บรรยากาศล้านนาโคโลเนียล โรแมนติก ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ 100 ปี ให้รู้ว่า ความรักของเรา จะอยู่ด้วยกันตลอดกาล ที่พักบรรยากาศโรแมนติกที่สุดในเชียงใหม่ ในสไตล์ล้านนาโคโลเนียล “ณ นิรันดร์” โรแมนติก บูทีค รีสอร์ท (NA NIRAND Romantic Boutique Resort) ที่นี่เป็นรีสอร์ทที่ตกแต่งแบบไทยล้านนา ที่ย้อนยุคสมัยไปในช่วง รัชกาลที่ 5 แต่กลับอยู่ในใจกลางตัวเมืองของเชียงใหม่ค่ะ เดินทาง คือ ง่าย สะดวก แถมบรรยากาศนี่ คือ สิบสิบสิบ ไปเลยค่ะ
ไฮไลท์ของที่นี่ที่หนูชอบมาก คือ บรรยากาศของที่นี่โรแมนติกเหมาะกับคู่รักที่สุดเลยค่ะ ตั้งแต่ชื่อของรีสอร์ท “ณ นิรันดร์” ที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความหมายที่ดีของชีวิตคู่ของกันและกันค่ะ นอกจากนี้ยังมีต้นจามจุรียักษ์ อายุกว่าร้อยปีเป็นจุดตรงกลาง มีแม่น้ำปิงเป็นฉากหลัง เลยทำให้ความรู้สึกของเราตอนเข้าพัก มันเป็นอะไรที่ร่มรื่น สบายใจ และโรแมนติกมากค่ะ
053-280-988 หรือ 062-875-2401
7.7 The Riverside
มาเชียงใหม่ ต้องลองมานั่งเรือทานอาหาร ชมวิวเชียงใหม่จากแม่น้ำปิงกันค่ะ กับร้านนี้เลย The Riverside ใครได้มาเยือนเมืองเชียงใหม่แล้วไม่ได้มาที่นี่ก็ถือว่ายังไม่ได้สัมผัสเสน่ห์และกลิ่นอายของจังหวัดกันนะคะ แต่หากใครที่ไม่ได้อยากทานอาหารบนเรือ ก็สามารถเลือกทานอาหารในสวนได้เช่นกันนะคะ
053 243 239
7.8 Thee Vijit Lanna
Facebook Thee Vijit Lanna
053 233 717
7.9 เฮือนม่อนฝ้าย
กิ๋นลำ ตี้เฮือนม่อนฝ้าย สำหรับครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เรามาที่เฮือนม่อนฝ้ายนะคะ จะเป็นบ้านล้านนาชาวเหนือ ที่ตกแต่งแบบล้านนาแท้ๆ เลยค่ะ ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์และละครไทยหลายเรื่องมากๆ เลยค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีในส่วนของพิพิธภัณฑ์ให้เดินชมด้วยน้า เฮือนม่อนฝ้าย ก็เป็นสถานที่ไว้รับแขกบ้านแขกเมือง จัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งงานแต่งงาน งานเลี้ยงเยอะมากเลยค่ะ โดยในช่วงที่มีงานจะเปิดโซน กาดมั่ว ให้เราได้เดินเล่นชิมอาหารเหนือ และขนมหลายอย่างมั่วๆ ได้อย่างสนุกเลยค่ะ
089 851 8010
7.10 ลานดิน
ลานดิน เป็นพื้นที่กว้างๆ โล่งๆ มีหลายร้านค้าที่มาเช่าในโครงการนี้ (เพราะฉะนั้นใครที่ชอบทั้งคาว หวาน ความหลากหลายก็มาที่นี่ได้) แต่อาคารหลักที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาก็จะเป็นอาคารรูปทรง 4 เหลี่ยม ที่ทำจากแผ่น Polycarbonate ที่ทำให้ภายในดูปลอดโปร่ง และยังช่วยนำแสงธรรมชาติ เข้ามาภายในอาคารได้อย่างดี เป็นเหตุให้การถ่ายรูปที่นี่ก็สดใส และช่วยกรองแสงไม่ให้แรงเกินไป ถ่ายมายังไงก็สวยนั่นเอง และตอนที่เราไปเป็นช่วงอากาศหนาว ทางร้านก็จะเปิดหน้าต่างไม้รับลมเย็นๆ นั่งทานกาแฟได้สดชื่นเลย
063 365 3946
7.11 วัดโลกโมฬี
มาเอาใจสายวัด ทำบุญกันต้อนรับปีใหม่กันบ้างดีกว่า ขอเริ่มต้นจากวัดโลกโมฬี วัดเก่าแก่ ที่มีเคยเป็นฉากหนึ่งของภาพยนตร์ สุริโยทัยกันก่อนเลยค่ะ เนื่องจากวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่ในเหตุการณ์จริงของสมัยเดียวกับพระสุริโยทัย ซึ่งในสมัยนั้นพระนางจิรประภามหาเทวีเป็นกษัตริย์ และสมเด็จพระไชยราชาธิราช กษัตริย์อยุธยาได้ยกทัพขึ้นมาหมายจะตีเมืองเชียงใหม่ ซึ่งทางเชียงใหม่ไม่น่าจะรับศึกไหว พระนางจึงได้แต่งเครื่องราชบรรณาการออกไปถวาย และชวนกันมาทำบุญที่วัดโลกโมฬี
7.12 วัดพระธาตุดอยคำ เชียงใหม่
วัดพระธาตุดอยคำ วัดที่มีชื่อเสียงเรื่องการขอพร กับ หลวงพ่อทันใจ วัดนี้เก่าเป็นพันปี (คือสร้างตั้งแต่ 1230 !!) มีชื่อเสียงเรื่องการขอพร การบนบาน ซึ่งในการบนบานก็ต้องจุดธูป 3 ดอก ขอพรที่ต้องการ และกลับมาแก้บนด้วยดอกมะลิ นอกจากนี้ที่วัดก็มีจุดชมวิวสวยๆ ให้เราชมวิวสูง พร้อมกับบันไดพญานาคที่ทอดตัวยาวไปกับแนวเขา
7.13 วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
วัดเก่าแก่ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีพระพุทธสิหิงห์ ที่เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองล้านนามายาวนานหลายร้อยปี โดยการตกแต่งสถานที่ในวัดก็เป็นสไตล์ล้านนาทั้งสิ้น โดยส่วนตัวเราแอบชอบพะเจดีย์ของวัดมาก สวยงาม เป็นสีทองอร่าม และมีช้างรอบล้อม
7.14 วัดอุโมงค์ เชียงใหม่
วัดอุโมงค์ เป็นวัดที่เก่าแก่มากว่า 700 ปี ซึ่งบริเวณกำแพงหน้าอุโมงค์จะถูกปกคลุมด้วยต้นมอสขนาดจิ๋ว เป็นการตกแต่งจากธรรมชาติที่น่าสนใจ และภายในอุโมงค์นี้ก็จะสามารถทะลุกันได้หลายช่อง ใครที่มาคาเฟ่ย่านนี้แล้ว ก็อย่าลืมแวะมาวัดอุโมงค์กันด้วยน้า
8.แม่วาง เชียงใหม่
สำหรับในพื้นที่ของแม่วาง จะอยู่ใกล้กับ สะเมิง / หางดง / สันป่าตอง และแม่แจ่มค่ะ โดยในพื้นที่ของอำเภอนี้จะยังไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหารคาเฟ่ ต่างๆ เยอะเท่ากับโซนอื่นๆ นะคะ แต่พื้นที่หลักของในโซนนี้จะเต็มไปด้วยลำธาร หมู่บ้านการเลี้ยงช้าง และจุดชมดอกพญาเสือโคร่งค่ะ
8.1 The Chai lai orchid
สำหรับไฉไล ออร์คิด เป็นโฮมสเตย์ในรูปแบบที่ทำให้เราได้ใกล้ชิดสัตว์มากขึ้นค่ะ โดยเฉพาะ “ช้าง” นั่นเอง โดยช้างที่นี่ เป็นช้างที่ได้ถูกไถ่มาจากการโดนใช้แรงงานในเมืองค่ะ โดยหลังจากไถ่มาอยู่ที่นี่ ทางโฮมสเตย์จะไม่ใช้ขอสับมาทำร้ายน้องนะ น้องเลยดูสดใส อารมณ์ดีมากเลยล่ะ กิจกรรมต่างๆ ของที่นี่เยอะมาก!! ทั้งล่องแพ อาบน้ำช้าง พาช้างเดินขึ้นเขา ดูหมอกตอนเช้า ไปจนถึงไฮไลท์ที่สุด ที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลายๆ คนต้องมาค่ะ นั่นคือ “Morning Call” หรือการให้น้องมาปลุกตอนเช้าถึงห้องพักนั่นเอง
ที่พักมีหลากหลาย room type หลากหลายราคานะคะ แต่หากเราแนะนำ จะเป็นห้อง Modern Balcony Cabin ค่ะ เพราะตอนทำ Morning Call จะเห็นมุมห้องเป็นกรอบสี่เหลี่ยมพอดีค่ะ โดยราคาห้องนี้จะอยู่ที่ ราคาห้องนี้ 1,800 บาท/คืน
082 660 2213
8.2 ขุนวาง
เอาใจคนอยากเที่ยวหน้าหนาว ที่มีแพลนไปช่วงมกรา-กุมภา กันบ้าง กับขุนวาง เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดที่สามารถชมดอกซากุระเมืองไทย หรือพญาเสือโคร่งได้สวยงามมากค่ะ จะบานพร้อมกันจนเป็นอุโมงค์ หรือ ถนนซากุระสวยๆ ที่ขุนวาง เชียงใหม่ในช่วงหน้าหนาวของทุกๆ ปี ช่วงเวลาดอกไม้บาน คือ มกราคม ถึง กุมภาพันธ์ ต้องดูสภาพอากาศของแต่ละปีอีกครั้งค่ะ
053318333
9. หางดง เชียงใหม่
สำหรับอำเภอที่อยู่ข้างเคียงกับอำเภอเมืองเชียงใหม่เลย ก็คือ หางดงนั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นอีกโซนที่สามารถเดินทางมาด้วยกันได้ง่ายมากๆ ค่ะ
9.1 ห้วยผักไผ่
เอาใจสาวๆ ชอบดอกไม้ กับ สวนกุหลาบหลวงโครงการหลวงห้วยผักไผ่ ค่ะ ที่นี่ปลูกกุหลาบหลากสีสัน นานาพันธุ์ และยังสามารถมานั่งจิบชากลางสวน หรือทานอาหารได้ด้วยค่ะ ซึ่งหากถามว่าเราชอบอะไรของที่นี่เป็นพิเศษเลย คือ บรรยากาศสวนดอกกุหลาบสวยๆ หลากหลายสีสัน และรสชาติอาหารที่อร่อย ในราคาที่ถูกมากค่ะ
0991351118
9.2 Ma Chill Dee
คาเฟ่รูปโดมใส ที่อยู่กลางป่า ทำให้เราได้รูปสวยๆ อลังการได้ท่ามกลางภูเขา นอกจากนี้ก็ยังมีมุมชิวๆ ให้เรานั่งจิบกาแฟ ริมน้ำ หรือท่ามกลางสวนดอกไม้ได้อีกด้วยค่ะ เอาจริงๆ แล้วที่นี่จะรีโนเวท ปรับปรุงสถานที่ และไอเดียการจัดสวนบ่อยๆ ค่ะ ช่วงไหนนิยมอะไร ก็จะมีการแอดออนมุมถ่ายรูปเพิ่มเรื่อยๆ เลยนะคะ
0992829199
10. สันป่าตอง เชียงใหม่
10.1 เก๊าไม้ล้านนา
อีกหนึ่งคาเฟ่ที่ออกแนวเขียวๆ ธรรมชาติอีกที่ก็แนะนำให้มา เก๊าไม้ ล้านนาค่ะ เป็นโรงบ่มยาสูบเก่า ที่มีการตกแต่งแนว Rural Rustic มากค่ะ ซึ่งที่นี่มีให้บริการทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ทำให้มีขายตั้งแต่เครื่องดื่ม ขนมหวาน ไปจนถึงอาหารมื้อหนักค่ะ อาหารเหนือก็มีขายด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ที่นี่ยังเปิดให้บริการเป็นที่พักด้วยนะ ซึ่งบอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก แนะนำให้ลองมาเที่ยวกันดูค่ะ
053 481 201
11. สะเมิง
อำเภอสะเมิงนั้นมีชื่อเสียงในเรื่องของการปลูกดอกเก๊กฮวยมากๆ ค่ะ ซึ่งในพื้นที่ย่านนี้จะมีสวนดอกเก๊กฮวยสวยๆ เยอะมาก โดยสวนที่นิยมในการถ่ายภาพมากที่สุด คือ ไร่นายพล นั่นเองค่ะ
11.1 ไร่นายพล
1 ปี มี 1 ครั้ง กับ ทุ่งดอกเก็กฮวย บ้านอมลอง จ.เชียงใหม่ ที่สวยงามจนไม่เหมือนอยู่ไทยเลยค่ะ มีหลากหลายสวนให้เราเลือกแวะจอดถ่ายเพียบเลยนะคะ ซึ่งช่วงดอกเก๊กฮวยบานจะเป็นช่วงเดือนตุลาคม ถึง พฤศจิกายน ของทุกๆ ปีค่ะ นอกจากนี้เราแนะนำให้มาช่วงเช้า 07.00 – 10.00 หรือช่วงเย็น 15.00 – 17.30 เพราะช่วงกลางวันแดดร้อนมาก และแสงจะแข็งไปสำหรับการถ่ายรูป และสาวๆ สามารถเอาตะกร้าหวายสานน่ารักๆ มาเอง แล้วขอยืมดอกเก็กฮวยที่ทางคุณลุงเก็บไว้มาใส่ตะกร้าเป็นพร็อพประกอบการถ่ายรูปแบบเราก็ได้น้า
097 983 9413
12. จอมทอง เชียงใหม่
จอมทองเป็นอีกอำเภอที่มีขนาดใหญ่ อยู่ค่อยมาทางตอนใต้ของตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามเยอะมาก โดยเฉพาะดอยอินทนนท์ค่ะ ทำให้ที่อำเภอนี้ในแต่ละปี จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนเกือบถึง 2 ล้านคนในแต่ละปีค่ะ
12.1 กิ่วแม่ปาน
กิ่วแม่ปาน เป็นอีกที่เที่ยวนึงที่สวยงามของดอยอินทนนท์ ข้างในเส้นทางมีธรรมชาติที่หลากหลาย สวยงามมาก ช่วงทางเดินแรกจะเป็นเหมือนป่าดิบชื้น มีน้ำตกไหล ได้ยินเสียงกระทบกับหินช้าๆ พอเดินไปสักพัก จะหลุดพ้นจากป่าเป็นอีกโซน วินาทีนั้นกำลังสับสนว่า ทำไมที่นี่มันหลากหลายขนาดนี้ เพราะจากป่าสูง กลายเป็นภูเขา และยอดหญ้าเตี้ยๆ ที่เห็นวิวกว้าง ขณะเรามายังไม่มีหมอกนะ ถ้าใครโชคดีก็จะได้เจอทะเลหมอกสวยๆ ในยามเช้าค่ะ
12.2 จุดชมวิว กม.42
สำหรับคนที่อยากมาชมแสงแรก เราแนะนำให้ปักหมุดมาที่นี่เลยค่ะ กับ จุดชมวิว กม. 42 บนถนนถนนหมายเลข 1009 ซึ่งเราสามารถเจอจุดนี้ได้ก่อนเข้าไปเดินศึกษาในเส้นทางธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน นั่นเองค่ะ โดยที่นี่สวยงามมากๆ และเห็นวิวฉากหลังยอดดอยหัวเสือค่ะ
12.3 ลานกางเต๊นท์ดงสน
สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการนอนพักสักคืนบนดอยอินทนนท์ เราแนะนำให้มาที่นี่เลยค่ะ กับ ลานกางเต๊นท์ ดงสน เพราะที่นี่เพื่อนๆ จะพบกับดงสนสวยๆ จำนวนมาก พร้อมอากาศที่เย็นสบายที่สุดเลยค่ะ โดยที่นี่จะมีตั้งแต่บ้านพักที่แสนจะสะดวกสบาย มีที่ทำน้ำอุ่น เตียงนุ่มๆ และห้องน้ำส่วนตัวค่ะ หรือจะมาแคมป์ปิ้งกางเต๊นท์กับทุ่งสนก็ได้ค่ะ
053286729
Website อุทยานสำหรับจองห้องพัก
12.4 The Garden Tent
12.5 อ่างกา
นี่เชียงใหม่ ไม่ใช่จูลาสสิคเวิลด์ มาเชียงใหม่อย่างกับไปป่าดงดิบ !! สำหรับเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เป็นอีกสถานที่ ที่หนูและพี่คิมชอบมากๆๆๆๆ ในเชียงใหม่ค่ะ เพราะว่าเดินง่ายมาก เส้นทางเดินประมาณ 300-400 เมตร เป็นรูปวงกลม เดินบนสะพานไม้ไปเรื่อยๆ ค่ะ แถมต้นไม้ต่างๆ ก็สวยมาก เป็นป่าดิบชื้นเหมือนอยู่ในจูลาสสิคเวิร์ลอะไรแบบนั้นเลยค่ะ ใครที่ชอบธรรมชาติ แต่ไม่ชอบลำบากแบบเราสองคน ต้องที่นี่จริงๆ ค่ะ
12.6 ไฮเดรนเยีย บ้านขุนแปะ
ที่นี่ขุนแปะ ไม่ใช่ดาลัด นะจ๊ะ สาวๆ ที่ชอบดอกไม้สีฟ้าอย่างไฮเดรนเยีย ไม่ต้องไปไกลถึงเวียดนามแล้ว มาเที่ยวที่ บ้านขุนแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ โดยช่วงเวลาที่จะดอกไม้บาน คือ เดือนตุลาคม ถึง กุมภาพันธ์ ซึ่งหากเพื่อนๆ อยากมาเที่ยวชมสวนดอกไม้สวยๆ ของที่นี่ ก็มาได้ไม่ยากแล้ว เพราะถนนหนทางปรับปรุงใหม่เรียบร้อย โดยให้ปักหมุดมาที่ “โครงการหลวงขุนแปะ” หลังจากนั้นจะนั่งรถชาวบ้านเข้าสวน ราคา 500 บาททั้งไปและกลับ / เสียค่าเข้า คนละ 30 บาท และหากซื้อดอกไม้ก็กำละ 30 บาทค่ะ
0980088441
12.7 ขุนแปะ กระท่อมตะวันไรวินท์
สำหรับใครที่มาเข้าชมไฮเดรนเยียบ้านขุนแปะ แต่อยากนอนพักใกล้ๆ สวนดังกล่าว และใกล้ชิดกับบรรยากาศธรรมชาติ ก็สามารถมานอนที่ ขุนแปะ กระท่อมตะวันไรวินท์ ได้ค่ะ โดยที่นี่จะไม่มีไฟฟ้า ไม่มีแอร์ แต่ทางพี่ตะวันเจ้าของโฮมสเตย์จะมีหลอดไฟ LED เล็กๆให้ค่ะ ถ้าหากอยากพักแบบสบายๆ ไม่ลำบากมาก แนะนำให้นอนบ้านหลังใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวค่ะ ราคาจะอยู่ที่ 1500 บาทต่อคืน โดยในค่าใช้จ่ายดังกล่าวมีทั้งอาหารเย็นแบบขันโตก และ อาหารเช้าเป็นข้าวต้มง่ายๆ กับชาลิ้นมังกรร้อนๆ เราค่อนข้างชอบการมานอนพักที่นี่ เพราะเป็นอะไรที่สงบมากๆ เลย
0931491269, 0623011124
12.8 สวนไฮเดรนเยีย คุณทองดี
ไปดาลัดไม่ได้ มาเชียงใหม่กันก่อนมั้ย? กับ ทุ่งไฮเดรนเยีย สวนคุณทองดี ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ สัมผัสลมหนาว คู่กับ ดอกไฮเดรนเยียสวยๆ ที่บานเต็มยอดภูเขา อลังการจนไม่รู้จะถ่ายภาพยังไงให้ครบ!! โดยไฮไลท์ของที่นี่ ที่เราชอบนะ คือ ดอกไฮเดรนเยียปลูกไล่ตามไหล่เขาสวยมาก มีก้อนหินขนาดใหญ่หลายจุด ทำให้เรานั่งถ่ายรูปครีเอทมุมได้เยอะ สวนมีขนาดใหญ่มาก แถมด้านหลังยังเห็นวิวภูเขา และหมอกได้สวยงามอีก ยิ่งช่วงนี้ดอยอินทนนท์หนาวมาก!! ไม่ไปไม่ได้แล้ว โดยจะมีค่าใช้จ่ายตามนี้ ค่าบำรุงชุมชน 20 บาท, ค่ารถไปกลับคันละ 350 บาท/คัน นั่งได้ไม่เกิน 8 ท่าน และค่าเข้าชมสวน 50 บาท
คำถามยอดฮิต?? ขุนแปะ หรือ คุณทองดี สองสวนดังในเชียงใหม่ไปอันไหน
– ขุนแปะ : นั่งรถชาวบ้านสั้นกว่า แปปเดียวถึง ทางไม่ลำบากเท่าไหร่ ระบบการจัดการรถค่อนข้างดี รอรถแปปเดียวก็ได้ไป แต่สวนเล็กกว่า
– คุณทองดี : สวนใหญ่มาก มีมุมถ่ายรูปได้ง่าย และเยอะกว่า เห็นภูเขาเป็นฉากหลังอลังการกว่า แต่ระบบการจัดการเรื่องรถค่อนข้างช้ากว่า ทางเข้าลำบากกว่า ใช้เวลารอรถค่อนข้างนานกว่าค่ะ แนะนำให้เผื่อเวลาไว้น้า
0899984624
12.9 ไร่ชาดอยอินทนนท์
13. แม่แจ่ม เชียงใหม่
หากเราขับรถต่อจากดอยอินทนนท์ออกไปทางซ้ายมือเรื่อยๆ และผ่านบ้านบงเปียงไป เราก็จะสามารถเดินทางไปเที่ยวต่อในส่วนของแม่แจ่มได้ค่ะ ซึ่งหลักๆ เลยแม่แจ่มจะเป็นหมู่บ้าน ชุมชนเล็กๆ ที่อยู่กลางหุบเขาค่ะ ที่นี่จะเน้นเรื่องของการปลูกข้าว ทำสวน ทำฟาร์ม ทำให้จะมีการท่องเที่ยวแนวนี้เป็นหลักเลย
13.1 ทุ่งนา แม่แจ่ม
ในส่วนของตัวเมืองแม่แจ่ม จะเป็นเมืองเล็กกลางหุบ ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศที่เงียบสงบ เรียบง่ายไม่เคยเปลี่ยนค่ะ ซึ่งหากเรามาเที่ยวในช่วงเดือนก.ย. จะพบว่าตลอดสองข้างทางในอำเภอนี้ จะเห็นวิวนาข้าวเขียวขจี ทั่วทุกหนแห่ง ตลอดทุกเส้นทางค่ะ และในช่วงปลายเดือนตุลาคม นาข้าวสีเขียว ก็กลายเป็นสีทองเหลืออร่าม พร้อมเก็บเกี่ยวนั่นเอง
13.2 ฟาร์มวัวจิระพานิช
ที่นี่เมืองไทย ไม่ใช่ สวิตเซอร์แลนด์ เนินเขาสูง ต้นไม้โดดเดี่ยว อากาศหนาว กอดน้องวัว ชาร์โรเล่ส์ อย่างใกล้ชิด กับ ฟาร์มวัว จิรพาณิชย์ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ที่นี่เป็นสถานที่ที่เรารู้สึกว่า Unseen มากๆ !! ค่ะ เพราะว่าเป็นฟาร์มวัวชาร์โรเล่ส์ สายพันธุ์ฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนเนินเขา พร้อมทุ่งหญ้าลูซี่ ที่ให้น้องวัวเดินกินหญ้าได้อย่างอิสระเต็มพื้นที่กันเลยค่ะ โดยไฮไลท์ของที่นี่ ที่หนูหลงรักหัวปักหัวปำ คือ น้องวัวชาร์โรเล่ส์นั่นเองค่ะ หน้าตาน้อง คือ หล่อมาก มีสีเบจ ผมหยัก รูปร่างบึกบึน และเรายังสามารถถ่ายรูปเล่นกับน้องได้แบบใกล้ชิดมากๆ เลยค่ะ สามารถจับได้ กอดได้ เราเลยประทับใจมากค่ะ นอกจากนี้วิวที่นี่ ยังมีมุมถ่ายรูปเด็ดๆ เยอะมาก มีต้นไม้โดดเดี่ยว และเนินเขาสูงต่ำ ให้เราครีเอทมุมเจ๋งๆ ได้เพียบเลย
0613056011
14. บ่อหลวง
บ่อหลวง เป็นอำเภอที่ปัจจุบัน ผู้คนนิยมมาท่องเที่ยวมากๆ ค่ะ เนื่องจากในโซนนี้จะเป็นป่าสนเป็นหลัก และยังสามารถชมหมอกในยามเช้าได้สวยงาม พร้อมกับมีที่พักที่น่ารัก โดนใจหลายๆ คน และราคาไม่แรงด้วยนั่นเองค่ะ
14.1 สวนป่าดอยบ่อหลวง
ใครที่ชอบธรรมชาติ พักสบาย บ้านฮิปๆ และราคาไม่แรงมาก ก็คงจะต้องตกหลุมรักที่นี่แน่ๆ กับ สวนป่าดอยบ่อหลวงค่ะ โดยที่นี่จะมีบ้านไม้ บ้านปูนหลากหลายแบบ ที่อยู่ท่ามกลางป่าสนค่ะ โดยที่นี่บรรยากาศจะดีมากในช่วงเช้าๆ เพราะจะมีหมอกลงปกคลุมป่าสนไปหมดเลย ส่วนในช่วงเย็นก็สามารถนั่งผิงไฟเล่นกีต้าร์กันหน้าบ้านพักได้ชิวเลยค่ะ
บ้านพักมีหลากหลายแบบ คือ บ้านเอเฟรม 1,500 บาท, บ้านทิวสน 1,000 บาท, บ้านแฝด 800 บาท, บ้านปูนเปลือย 2,000 บาท, ตึกป่าสน(Hotel) ห้องละ 500 บาท
0925869215
14.2 สวนสนบ่อแก้ว
สวนสนบ่อแก้ว นั้นเป็นสวนสนที่อยู่ไม่ไกลจากดอยบ่อหลวงสักเท่าไหร่ แต่บรรยากาศก็จะต่างกับดอยบ่อหลวงพอสมควรค่ะ เพราะที่นี่ต้นสนจะดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากกว่าดอยบ่อหลวง และดูพื้นที่มากกว่า ซึ่งหากเพื่อนๆ มานอนที่ดอยบ่อหลวงอยู่แล้ว เราก็แนะนำให้แวะมาเที่ยวที่นี่ด้วยกันจะเป็นเส้นทางที่ลงตัวมากที่สุดค่ะ
15. ดอยสะเก็ด เชียงใหม่
15.1 สะพานแขวนเขื่อนแม่กวง
สะพานสีขาวและโครงเหล็กที่เชื่อมระหว่าง 2 ฟากฝั่ง ให้ข้ามไปมาหาสู่กันได้ ระหว่าง แม่กวงและป่าสักงาม ซึ่งแต่เดิมต้องใช้การเดินทางด้วยเรืออยากเดียวในการข้ามฝั่งนี้ ซึ่งสะพานแขวนเชื่อมใจกลายเป็นจุดถ่ายรูปเช็คอินที่น่าสนใจมากค่ะ ซึ่งเราจะได้เห็นวิวทิวเขาโล่งๆ และผืนน้ำใสราวกับกระจกได้สวยงามมากๆ
16. กัลยานิวัฒนา เชียงใหม่
สำหรับกัลยานิวัฒนา จะเป็นอำเภอสุดท้ายที่เราแนะนำให้เพื่อนๆ กันค่ะ โดยในส่วนของอำเภอนี้จะค่อนข้างไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่พอสมควร เป็นอำเภอรอยต่อที่จะเข้าไปยัง ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอนค่ะ ดังนั้น หากใครที่วางแผนขับรถเที่ยวเชียงใหม่ ต่อ แม่ฮ่องสอน สามารถขับรถโดยใช้เส้นทางผ่านอำเภอนี้ ก็จะได้ Road Trip ที่คุ้มค่ามากสุดๆ ค่ะ
16.1 ป่าสนวัดจันทร์
อากาศหนาวๆ ในดงป่าสน กับบ้านไม้ทรงสามเหลี่ยมสุดฮิป มาพร้อมกับวิวหมอกลอยเหนืออ่างเก็บน้ำ ที่มุมถ่ายรูปเยอะมากกกก มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ บริการให้อย่างสะดวกสบายค่ะซิส
บอกเลยว่า ถูกและดี มีอยู่จริง หนาวนี้ต้องรีบไปพัก ที่ FIO Watchan – ป่าสนวัดจันทร์ อ.อ.ป. เลยค่ะ โดยฟีลลิ่งส่วนตัวเราชอบที่นี่มากกว่าดอยบ่อหลวงนะ คือ มันกว้างกว่า วิวธรรมชาติหลากหลายกว่า บ้านก็สวยทุกหลังเลย จำนวนบ้านเพียบ ไม่ต้องแย่งจองกับใครขนาดนั้น แค่ไกลกว่าอ่ะ แต่มาเห๊อะ คุ้มเกินคุ้มแน่นอน
ราคาบ้านพัก มีหลายแบบ บ้านสนเขา 800 บาท, บ้านวิวน้ำ 1,500 บาท, บ้านฉางข้าว 1,800 บาท, บ้านปากะญอ 1,800 บาท ซึ่งสามารถเข้าพักได้จำนวนบ้านละ 2 ท่าน แต่หากเพื่อนๆ ไปเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่ 6-10 คน ก็สามารถเลือกบ้านนอนรวมได้ ในราคาคืนละ 2,000 บาทเท่านั้นค่ะ
053249349
16.2 จุดชมวิวเหยียบเมฆา
จุดชมวิวเหยียบแม่ฆา เป็นจุดชมวิวเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างทาง แต่เราสามารถมองเห็นวิวกว้างสุดลูกหูลูกตาของทิวเขาหลายๆ ลูกได้อย่างสวยงามค่ะ โดยในจุดชมวิวนี้จะมีไร่สตอเบอร์รี่พันธุ์ 80 ให้เราสามารถเลือกชิม ช็อปได้ในราคาเบาๆ จากชาวบ้านที่ปลูกขายเองด้วยค่ะ
และทั้งหมดนี้ ก็คือ ที่เที่ยวเชียงใหม่ทั้งจังหวัดทั้งหมด ที่เราสองคนไปมานะคะ ซึ่งยังไงในเว็บนี้ เราจะเติมสถานที่ต่างๆ และอัพเดทให้เรื่อยๆ ค่ะ สามารถแชร์เก็บไว้ได้เลยนะ และหากเพื่อนๆ อยากเข้ามาสอบถามข้อมูล พูดคุยกับเรา ก็สามารถเข้ามาได้ที่ Facebook Page : Lazy Coup เที่ยวเป็นคู่ ได้เลยค่ะ