20 Jul มัสยิดกลางสงขลา ทัชมาฮาลเมืองไทย
ที่นี่เมืองไทย ไม่ต้องไปไกลถึงอินเดีย ก็เจอกับทัชมาฮาลได้ในสงขลา!! กับ มัสยิดกลางประจำจังหวัดนั่นเองค่ะ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวต้องห้ามพลาด รอให้เราได้ไปเที่ยวรับชมความงามของสถาปัตยกรรมอันประณีต เรียนรู้ศาสนา พร้อมแล้ว เรามาทำความรู้จักกันกับ มัสยิดกลางสงขลา กันเลยค่ะ
ไฮไลท์บรรยากาศสถานที่
:: มัสยิดกลางสงขลา คืออะไร ::
มัสยิดกลางแห่งนี้ มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า มัสยิดกลางดิย์นุลอิสลาม นั่นเองค่ะ ที่นี่เป็นศาสนาสถานของศาสนาอิสลาม ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญที่เป็นเสมือนศูนย์รวมจิตใจของชาวมุสลิมในจังหวัดสงขลา รวมถึงชาวมุสลิมในภาคใต้เลยค่ะ โดยมัสยิดกลางแห่งนี้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ และเพื่อนต่างศาสนา สามารถเข้ามาชมความสวยงามและเรียนรู้คำสอนต่างๆ ได้ค่ะ โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นแค่ศาสนาอิสลามเท่านั้นนะคะ นอกจากนี้มัสยิดกลางแห่งนี้ยังมีสถาปัตยกรรมอันสวยงาม ทำให้เป็นอีกหนึ่งใน Destination ของช่างภาพทั่วโลก ที่อยากมาบันทึกภาพของสถานที่อันวิจิตรแห่งนี้ไว้นั่นเองค่ะ
:: การเดินทางมา มัสยิดกลางสงขลา ::
สำหรับการเดินทางมายัง มัสยิดกลางสงขลา เราแนะนำให้เพื่อนๆ เริ่มจากมาที่ตัวเมืองหาดใหญ่ให้ได้ก่อนค่ะ เพราะในหาดใหญ่นั้นมีสนามบินนานาชาติอยู่ ทำให้ในตัวเมืองหาดใหญ่นั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สะดวก และง่ายที่สุดนั่นเองค่ะ โดยมัสยิดกลางแห่งนี้ จะอยู่ก็ไม่ไกลจากหาดใหญ่มากนัก ซึ่งหากเทียบเป็นระยะกิโลเมตร จะใช้เวลาขับรถมาเพียง 10 กิโลเมตร หรือประมาณ15 นาที ก็เข้ามารับชมความสวยงามของมัสยิดแห่งนี้ได้เลยค่ะ เห็นไหมล่ะ ว่าความสวยงามแบบนี้ ง่ายและสะดวกมากๆ เลย
:: ข้อควรรู้เรื่อง การแต่งกาย ก่อนมา มัสยิดกลางสงขลา ::
หลังจากที่เพื่อนๆ ได้ดูภาพสวยๆ และทราบพิกัดการเดินทางเรียบร้อยแล้ว อีกหนึ่งข้อควรรู้ที่เราจะต้องเตรียมตัวเอาไว้ ก่อนจะมารับชมความสวยงามอันวิจิตรศิลป์ของที่นี่ คือ เรื่องของการแต่งกายนั่นเองค่ะ เนื่องจากมัสยิดกลางสงขลาแห่งนี้ เป็นศาสนาสถานที่สำคัญของศาสนาอิสลาม ที่เปิดให้เพื่อนต่างศาสนาสามารถเข้ามารับชมความงามได้ ดังนั้นผู้เข้าชมควรแต่งกายโดยการให้เกียรติสถานที่ ด้วยการแต่งกายให้สุภาพค่ะ ไม่ใส่กางเกง/กระโปรงสั้น, เสื้อสายเดี่ยว, เสื้อรัดรูป นะคะ
ตัวอย่างการแต่งกายของเราสองคน พี่คิม (ชาย) แต่งตัวโดยการใส่กางกางขายาว คู่กับเสื้อเชิ๊ตสีขาว และหนู (หญิง) ที่เป็นนางแบบหลักในการถ่ายภาพที่นี่ แต่งด้วยชุดแลงก้าประยุกต์ ที่สั่งตัดด้วยผ้าอินเดีย เป็นเสื้อมีแขน ไม่โชว์เอว กระโปรงยาวถึงข้อเท้า และมีผ้าคลุมนั่นเองค่ะ ซึ่งจริงๆ อันนี้เป็นเพียงไอเดียสนุกๆ ในการแต่งกายให้ถ่ายภาพแล้วมีความรู้สึกเหมือนอยู่ที่ประเทศอินเดียนั่นเองค่ะ เพื่อนๆ สามารถลองประยุกต์การแต่งกายชุดสุภาพให้สวยงามได้นะคะ ไม่จำเป็นต้องโป๊ ก็ได้ภาพสวยงาม ถูกต้องตามกาลเทศะได้ค่ะ
:: พาเที่ยวชมความสวยงาน ของมัสยิดกลางสงขลา ::
เอาจริงๆ นะคะ สำหรับคนที่ดูรูปผ่านๆ ยังไม่ได้หาข้อมูลละเอียด จะมองว่าที่นี่ค่อนข้างเล็ก จุดถ่ายภาพที่น่าสนใจค่อนข้างน้อย แต่จริงๆ แล้วจากที่เราทำการบ้านมา และลองเดินเล่นรอบๆ ของมัสยิด เราพบว่ามัสยิดแห่งนี่้ มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างมากค่ะ และยังมีหลายๆ จุดลับๆ ที่สามารถเดินถ่ายภาพ และรับชมความสวยงานได้หลากหลายมุมมากๆ เราเลยจะพาไปแนะนำพิกัดสวยๆ ที่ห้ามพลาดแบบละเอียดกันค่ะ
1.ริมบ่อน้ำ ด้านนอก
จุดแรกที่เราอยากพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกัน คือมุมริมน้ำตรงส่วนนี้นั่นเองค่ะ เพราะมุมนี้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับ ทัชมาฮาลของประเทศอินเดีย นั่นเองค่ะ ที่เราแนะนำมุมนี้ก่อน เพราะเป็นมุมที่ทำให้ช่างภาพทั่วโลก อยากมาบันทึกภาพที่นี่นั่นเองค่ะ ในส่วนของบ่อน้ำด้านหน้านี้จะมีความยาวประมาณ 200 เมตร กว้างมากค่ะ ปกติแล้วน้ำในบ่อจะนิ่งสนิท จึงทำให้เกิดเงาสะท้อนของมัสยิดที่สวยงามราวกับกระจกที่ผิวน้ำเลยค่ะ
สำหรับช่วงเวลาที่เราแนะนำในการถ่ายภาพ หรือมารับชมมุมนี้ จะเป็นช่วงเย็นพระอาทิตย์ตกค่ะ เพราะดวงอาทิตย์จะตกด้านหลังมัสยิด ทำให้มีท้องฟ้าสีส้มแดงสวยงามในยามเย็นค่ะ เป็นความสวยงามของธรรมชาติที่อยู่ร่วมกันกับความวิจิตรศิลป์ของสถาปัตยกรรมได้อย่างลงตัวมากเลย
นอกจากนั้น ช่วงหัวค่ำมัสยิดก็จะเปิดไฟด้านใน ห้องโถงกลาง ซึ่งจะสว่างออกมาจากบานกระจกใสของอาคาร ทำให้เราสามารถรับชมความอลังการของที่นี่ได้ยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ บรรยากาศท้องฟ้าที่แตกต่างกัน ระหว่างช่วงเย็นที่ฟ้าเป็นสีส้ม และช่วงหัวค่ำที่ต้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ทำให้ที่มีมีสเน่ห์ ความสวยงามที่แตกต่างกันตามช่วงเวลาต่างๆ
ในช่วงหัวค่ำแบบนี้ หากเพื่อนๆ อยากจะถ่ายแบบ ก็สามารถเอาไฟตะเกียงมาเป็นพร็อพได้นะคะ เพื่อเปิดเงาให้นางแบบได้สว่างขึ้น เป็นจุดเด่นคู่กับมัสยิดแห่งนี้นั่นเองค่ะ
2. มุมโถงทางเดินด้านข้าง
ลำดับถัดไปเราจะเริ่มเดินเข้าไปในส่วนของพื้นที่มัสยิดกันค่ะ โดยบริเวณโถงทางเดินด้านข้างนี้จะถูกปูพื้นด้วยวัสดุหินอ่อนผิวขัดมันเงา และซุ้มโค้งระเบียงรูปทรงดอกบัว ทำให้เราสามารถถ่ายภาพตรงส่วนนี้ได้อย่างสวยงามอีกจุดหนึ่งเลยค่ะ เทคนิคง่ายๆ อย่างแรกในการถ่ายภาพมุมนี้ คือ เอาแบบไว้ตรงจุดกึ่งกลางของซุ้มประตู ไม่ให้มีเส้นเสาเสียบภาพนางแบบไว้นั่นเองค่ะ ก็จะได้ภาพกรอบเฟรมที่สวยงามได้ไม่ยากค่ะ
นอกจากนี้ เราก็สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นผิวหินอ่อนขัดเงาในการถ่ายภาพได้ด้วยเช่นกันค่ะ เพราะมุมนี้สามารถถ่ายให้เป็นเงาสะท้อนของแบบและสิ่งก็สร้างได้สวยงามเลยค่ะ
3. ด้านในมัสยิดกลาง
เมื่อเราเดินผ่านในส่วนของโถงทางเดิน เราก็จะเข้าไปในด้านในของมัสยิดกลางกันค่ะ ภายในของมัสยิดกลางจะก่อสร้างด้วยพื้นหินอ่อนขัดเงาเช่นเดียวกับบริเวณโถงทางเดินด้านข้างค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีกำแพงปูสีขาว กระจกใสบานใหญ่ รูปทรงพุ่มดอกบัว ทำให้มีมิติของแสงลอดเข้ามาตามช่องต่างๆ ได้อย่างสวยงามค่ะ
เราสามารถถ่ายภาพได้สวยงาม โดยให้แบบอยู่ตรงกลางเฟรมของกระจก และเล่นกับเงาสะท้อนบนพื้นผิวหินอ่อนขัดเงาได้สวยงามค่ะ ซึ่งสิ่งก่อสร้างทุกอย่างของด้านในจะออกมีความเป็น Symmetry สมดุลกันทั้งซ้าย-ขวา และบน-ล่างกันทั้งหมดเลยค่ะ
หลักการง่ายๆ อย่างหนึ่งที่เราสองคนชอบใช้ในการถ่ายภาพสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่างๆ เราจะใช้เทคนิคง่ายๆ คือ การถ่ายเส้นเสา (แกน Y) และระนาบพื้น (แกน X) ให้ออกมาตรงนั่นเองค่ะ โดยเพื่อนๆ สามารถเปิด Grid 9 ช่องในกล้อง เพื่อช่วยเทียบความตรงของเส้นสายต่างๆ ได้นะคะ
นอกจากนี้ ตรงจุดกึ่งกลางของมัสยิด จะมีลักษณะเป็นเพดานโดมที่เจาะขึ้นไป และมีลวดลาย กับช่องแสงที่เป็นกราฟฟิกที่สวยงามมากเช่นกันค่ะ เราสามารถลองหมุนมุมกล้อง ถ่ายงัด และบิดองศา ก็จะได้ภาพโดมตรงกลางนี้ ในมุมมองที่แตกต่างกันไปได้หลากหลายเลยค่ะ
นอกจากนี้ เมื่อมีช่องแสงจากโดมด้านบน แน่นอนว่าจะเกิดเงาสะท้อนแสงบนพื้น เลยทำให้เกิดกราฟฟิกต่างๆ เมื่อเอานางแบบไว้อยู่ตรงกลางก็จะทำให้ได้ภาพที่สวยงามได้เช่นกันค่ะ
4. ดาดฟ้าของมัสยิด
สำหรับมุมนี้ เป็นมุมลับๆ ที่เราเองคิดว่าหลายๆ คน ไม่ทราบว่ามีมุมนี้ด้วย เนื่องจากจุดนี้ คือ ชั้นดาดฟ้าบนสุดของมัสยิดนั่นเองค่ะ โดยให้เดินขึ้นบันไดมาเรื่อยๆ ประมาณ 3-4 ชั้น ก็จะเจอกับมุมนี้นั่นเองค่ะ ซึ่งจะจุดสนใจสำคัญ คือ ยอดโดมกลมๆ สีเหลือง ที่อยู่ท่ามกลางพื้นปูนสีขาว และท้องฟ้าสีฟ้าใสนั่นเองค่ะ
เทคนิคการถ่ายภาพจุดนี้ของเรา เราโชคดีที่ก่อนมาถ่ายทำนั้น ฝนตกลงมาเล็กน้อย ทำให้มีแอ่งน้ำขังเล็กๆ อยู่ด้านบนค่ะ เราเลยใช้ประโยชน์แอ่งน้ำตรงนี้ด้วยการวางหน้าเลนส์กล้องแนบกับแอ่งน้ำ เพื่อให้เกิดภาพสะท้อนนั่นเองค่ะ
หรือหากเพื่อนๆ คนไหน มีผ้าคลุมสวยๆ ก็นำเอาชายผ้าคลุมลากมาบังบริเวณหน้ากล้อง และให้อยู่ตรงจุดกึ่งกลางของโดมมัสยิด ก็จะได้ภาพที่สวยงามและแปลกตาไปจากเดิมค่ะ
ทั้งหมดนี้ก็คือสถานที่เที่ยว มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา ที่มีความสวยงาม และชื่อเสียงไปไกลให้ช่างภาพทั่วโลกอยากมาบันทึกภาพนั่นเองค่ะ ใครที่อยากจะไปก็สามารถดูรายละเอียดเปิดปิด และพิกัดในแผนที่ Google Map ได้ตามรายละเอียดด้านล่างค่ะ
074 305 300
เวลาเปิด-ปิด 08.30 – 15.30 แต่สามารถเข้าชมความงามริมบ่อน้ำได้ถึงค่ำเลยค่ะ
สุดท้ายนี้ หากใครชอบหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ ก็สามารถเข้ามาอ่านที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อัพเดทเรื่อยๆ ได้ที่ https://www.lazycoup.com/category/travel/thailand/