ภูสิงห์ @ บึงกาฬ Open Warp Province 77

ภูสิงห์ บึงกาฬ

ภูสิงห์ @ บึงกาฬ Open Warp Province 77

ภูสิงห์ บึงกาฬ

เปิดวาร์ป จังหวัดที่ 77 ของไทย กับสถานที่เที่ยวสุดชิค “ภูสิงห์ @ บึงกาฬ”
สำหรับที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก๋ๆ ที่ควรค่าแก่การมา check in มว๊ากกกก
กับไฮไลท์ที่พีคสุดอย่างหินสามวาฬ มีทั้งวาฬพ่อ วาฬแม่ วาฬลูก ยกมาทั้งครอบครัวเลย
และก็ยังมีจุดถ่ายภาพหลากหลายจุดเยอะมาก
ขอบอก… #เดินป่าแบบชิวๆเลยจ้า #ผู้สูงอายุก็สามารถมาได้นะคะไม่เหนื่อยจริงๆขอบอก

เอาล่ะ นี่แค่รูปน้ำจิ้มนะคะ เรามารีวิวการเดินทาง และท่องเที่ยวที่นี่รวดเดียวจบตามเคยแล้วกันจ้า ^^

ลิ้งค์ google map  : https://goo.gl/maps/ZicAMayyQcs

แนะนำก่อนเลยว่า เท่าที่คุยกับเจ้าหน้าที่ จะไม่ได้มีรถสาธารณะขับผ่านมาที่นี่
คนที่มาก็จะเป็นรถส่วนตัว หรือว่ารถเช่ามาน้า

ถ้าหากเข้ามาถูกที่แล้ว จะเจอป้าย และที่จอดรถแบบนี้
ที่นี่สามารถกางเต๊นท์นอนได้ในบริเวณตามภาพค่ะ

และแล้วด้วยความตั้งใจ เราก็มาถึงที่นี่ภูสิงห์ บึงกาฬ

หลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้วเราก็สามารถเข้ามาลงทะเบียนได้เลยค่ะ
พื้นที่บริเวณนี้จะเป็นการดูแลของเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ อาสาสมัคร และชาวบ้านนะคะ
ซึ่งรายละเอียดที่สำคัญ คือการขึ้นไปเที่ยวต้องใช้รถ 4×4 กระบะ โฟร์วิล เท่านั้น
ไม่ควรเอารถเก๋ง หรือรถตู้ขึ้นนะคะ เดี๋ยวจะมีภาพให้ชมว่าทำไมไม่ควรจ้า
***หากไม่มีรถ 4×4 สามารถติดต่อขอเช่ารถขึ้นไปได้คันละ 500 บาทนะฮะ

หลังจากติดต่อขอเช่ารถเรียบร้อย
พี่ทรัพย์สิน จงศี (หน่วยป้องกันรักษาป่า) คอยช่วยอธิบายรายละเอียดของสถานที่
การปฏิบัติตัวต่างๆ เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวป่าอย่างปลอดภัยค่ะ
เบอร์ติดต่อพี่ทรัพย์สิน เผื่อใครจะขอข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ 088-563-8852

และนี่คือแผนที่ของที่นี่ !!!
จะเห็นได้ว่ามีจุดถ่ายภาพหลากหลายจุดเยอะมาก
ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวถ้ำฤๅษี หัวใจภูสิงห์ จุดชมวิวส้างร้อยบ่อ หินหัวช้าง ฯลฯ
ซึ่งแต่ละจุดห่างกันพอสมควรเลย
ถ้าเดินเท้าก็อาจจะหมดแรง แต่!!!! รถจำพวก 4×4 กระบะ โฟร์วิล พาถึงที่ เดินสบายโฮกกกก

พร้อมแล้วก็ขึ้นรถกันค่ะ

ช่วงแรกๆ ถนนหนทางก็ยังดีอยู่
ทำให้คิดว่า เอ๊ะ เอารถเก๋งขึ้นมาก็ได้นี่นา
(แต่เด๋วดูตอนต่อไปนะคะ ฮ่าๆ)

ทางที่เข้าไปก็ค่อยๆ ชันมากขึ้น และแคบลงอย่างเห็นได้ชัด

กิ่งไม้ก็อาจจะฟาดตาได้บ้าง นั่งหลังต้องระวังดีๆเหมือนกัน

ถนนส่วนใหญ่มักจะมีสภาพแบบนี้นะคะ หลังจากผ่านพ้นช่วงคุณหลอกดาวไปในช่วงแรกๆ

จนกระทั่ง… พี่หนูนาอาสาสมัครของเรา ต้องเอาหินไปวางไว้เพื่อให้รถผ่านไปได้

ทางแคบมากจริงๆค่ะ ขึ้นลงสวนทางเดียวกัน
สำหรับเรา มือใหม่หัดขับ ขอบายเลย เช่ารถง่ายสุดจริงๆ T^T

เราเลือกมาจุดพีค ไฮไลท์ข้างบนสุดก่อน นั่นคือจุดชมวิวหินสามวาฬ
ที่เรียกว่า หินสามวาฬเป็นเพราะว่า มีหินที่รูปร่างคล้ายวาฬ อยู่ 3 ตัว
ขนาด size ต่างกัน เป็นพ่อ แม่ ลูก
หากมองจากภาพถ่ายทางอากาศ หรือ โดรน อาจจะเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้นค่ะ

จากในภาพจะเห็นว่า เดินไปแปปเดียว ไม่ไกลมาก ก็ถึงแล้ว
ไม่ได้ต้องปีน เดินชันอะไรมาก ตามความเห็นส่วนตัวคิดว่า
สามารถพาคุณพ่อคุณแม่ ผู้สูงอายุ มาได้นะคะ

สูง สวย เสียว 3ส. ที่สุดจริงๆ
ทั้งนี้ ต้องเดิน นั่ง ยืนด้วยความระมัดระวังนะคะ

สูงแค่ไหน ถามใจดู

ภาพพาโนรามาจากจุดชมวิวภูสิงห์
เราจะเห็นวาฬพ่อ และวาฬแม่อยู่ สามารถเดินไปถ่ายรูปได้
แต่วาฬตัวลูก ไม่สามารถเดินไปได้นะคะ

เห็นอยู่มั้ย หินทั้งสามวาฬ

จากตรงนี้จะมองเห็นแม่น้ำโขงด้วย
แม่น้ำที่สำคัญ หล่อเลี้ยงประเทศไทย-ลาว

เวลาจะถ่ายรูปแอบแนะนำว่า ให้ตากล้องกับแบบ
ยืนอยู่กันคนละตัววาฬแบบนี้นะคะ จะได้เห็นมุมกว้างๆ สูงๆ กัน

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งนะคะ
หากช่วงหน้าฝน อาจจะทำให้หินตรงส่วนนี้ลื่นได้
แอ่งน้ำ ก็ควรเดินข้ามไปอย่างระมัดระวัง เพราะอาจเกิดอุบิติเหตุได้นะคะ

บางคนที่รักการปั่น ก็สามารถปั่นจักรยานมาได้นะคะ
น่าจะฟินไปอีกแบบนะเนี่ย! ^^

น้าๆ ก็แนะนำให้ว่า ถ่ายวิวตรงไหนสวยบ้าง
มาทริปแต่ละครั้งก็ได้มิตรภาพดีๆ กลับไป
ขอบคุณนะคะ <3

ภาพวิวจากจุดชมวิวแรก เขาสามวาฬ

หลังจากนั้นก็เดินไป จุดชมวิวถ้ำฤๅษีที่อยู่ใกล้ๆกัน
ตรงบริเวณนี้ มีห้องน้ำให้เข้าได้นะคะ
ตรงส่วนนี้จะเป็นพื้นราบโล่งๆ วิวจะคล้ายกับเขาสามวาฬค่ะ

เอาล่ะ นั่งรถ และเดินไปจุดถัดไปกันดีกว่า!

รองเท้าของใครลืมไว้นะ

ต้นไม้แห้งทิ้งใบระหว่างทาง

และเราก็มาถึง จุดชมวิวหินหัวช้างกัน

เหมือนหัวช้างมั้ย

ภาพวิวสูงตรงจุดนี้ก็ฟินจริงๆ ค่ะ

ระหว่างทางก็เจอกำแพงภูสิงห์ที่สูงใหญ่มาก

และเราก็มาถึงหินช้าง ตรงนี้จะคนละส่วนกับหินหัวช้างนะคะ
หินหัวช้าง เราจะไปยืนบนหินได้เลย แต่อันนี้ได้แต่แอคติ้งอยู่ไกลๆ

วิวแถวนี้ก็ยังคงสูง สวย เสียว ตามเคย แต่อาจจะน้อยกว่าจุดหินสามวาฬนะคะ

ระหว่างทางเราก็ได้พบเจอความสวยงามของธรรมชาติ และความอุดมสมบูรณ์ของป่า

สมัยก่อนพระจำมาจำวัดบนกุฏิในป่านะคะ แต่ปัจจุบันเท่าที่คุยกับเจ้าหน้าที่พบว่าน่าจะไม่มีแล้วค่ะ

และนี่คือหัวใจตกร่อง หรือ หัวใจภูสิงห์ ที่เกิดจากหินลงไปในร่องแล้วเป็นรูปหัวใจพอดีเป๊ะเลย<3
เดินไปนิดเดียวก็จะถึง ส้างร้อยบ่อค่ะ

ร้อยบ่อจริงมั้ยนะ ?

สำหรับทริปนี้ขอบคุณพี่หนูนาอาสาสมัครที่ดูแลเราเป็นอย่างดีนะคะ พี่น่ารักมากๆเลยค่ะ
ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม : พี่ทรัพย์สิน  088-563-8852