14 Dec พากายพาใจไปจุ่มลงในทะเลกว้าง @ เกาะช้าง Awa และ The Dewa
พากายพาใจไปจุ่มลงในทะเลกว้าง @ เกาะช้าง พร้อมชมพระอาทิตย์ตกน้ำ ให้ทะเลช่วยละลายและเจือจางความฟุ้งซ่านออกไป เหลือเพียงความสดใส บรรยากาศดีดี สุดแสนโรแมนติกเข้ามาแทนที่ (โดยทริปนี้ เราพักในโรงแรม AWA Koh Chang และ The Dewa Koh Chang ค่ะ) ไปชมบรรยากาศโรแมนติกกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่นเลยจะมาเกาะช้าง เราก็ตัดสินใจมาขึ้นเรือที่อ่าวธรรมชาติกัน
Google map : https://goo.gl/maps/jUYucJGEB3n
สำหรับใครที่กลัวว่าการขึ้นเรือที่นี่ คนจะเยอะ/แน่นมาก ต่อคิวเยอะเวอร์ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว … (มั่นใจว่าทุกคนกลัว ! แต่ก็เนอะมันเป็นช่วงเดียวของมนุษย์เงินเดือนตัวเล็กๆ แบบเราที่เที่ยวได้ ฮ่าฮ่า) สิ่งที่หนูชอบทำก็คือขับรถมาตั้งแต่คืนก่อนวันหยุดยาว แล้วมาหาที่นอนพักเอาใกล้ๆ ท่าเรือ ซึ่งห้องพักราคาไม่สูง มีหลายห้องมาก และเราก็จะได้ตื่นมาขึ้นเรือรอบแรกเลย
สำหรับค่าใช้จ่ายของการขึ้นเรือเฟอร์รี่ที่นี่ คือ รถ 4 ล้อ ราคา 120 บาท และราคาผู้โดยสาร 80 บาท/คน ค่ะ *แอบตกใจนิดนึงที่เห็นรถน้ำมันเบ้อเริ่มข้ามฝั่งด้วยเรือ
หลังจากที่เราข้ามฝั่งไปถึงเกาะช้างเรียบร้อยแล้ว เราก็ตัดสินใจไปลุยน้ำตกคลองพลูกัน … เพราะว่าเรามาเช้ามากกกก ยังไม่สามารถฝากของเช็คอินได้ แต่จิตใจอย่างเที่ยวแบบเต็มที่ ^^ (มาเกาะแต่ได้เที่ยวน้ำตกด้วย 2 in 1 เลย)
google map น้ำตกคลองพลู : https://goo.gl/maps/YgaP9ekKV8C2
สามารถจอดรถได้ในอุทยานเลยไม่มีค่าใช้จ่าย …แต่ !! หากมาสายหน่อยที่จอดก็จะน้อยลง ใครกลัวจอดไม่ได้ก็ลานจอดรถใกล้ๆ ของคนพื้นที่ให้บริการอยู่ (อันนี้มีค่าใช้จ่ายประมาณ 20 บาทนะคะ) ว่าแล้วมาลุยกันเลยดีกว่า
เดินมาใกล้กับที่ทำการอุทยานเลย ก็เจอมุมต้นไม้โค้ง สวยงาม มุมนี้ก่อนเลยค่ะ
แต่หลังจากนั้นเดินไปเรื่อยๆ จนถึงข้างบนสุด น้ำตกอลังการมากๆ ฝรั่งมาเล่นน้ำตรงข้างบนเยอะมาก
ชาวต่างชาติมาเล่นน้ำตรงนี้เยอะมาก เพราะน้ำใสมาก เย็นสบาย สะอาด แถมมีเจ้าหน้าที่หลายคนช่วยดูแลค่ะ
น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาของจริง
หลังจากเที่ยวน้ำตกถึงประมาณบ่ายแก่ ก็เข้ามาเช็คอินกันที่โรงแรม Awa Resort กันก่อนค่ะ เป็นแนว modern loft โปร่งๆ สีขาว สะอาดตา แค่โซนประตูทางเข้า และล็อบบี้ ก็ได้รูปเช็คอินสวยๆเพียบแล้ว
เมื่อเดินจากโซนล็อบบี้มาก็จะเจอสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สวยเก๋ ใกล้ทะเล มองย้อนกลับเห็นภูเขา
ห้องพักของเรา คือ Deluxe Beach Front เป็นห้องนอนในฝัน สีขาว minimal สะอาดตา และห้องน้ำใหญ่มาก มีอ่างอาบน้ำ เกลือสปาขัดผิวด้วย
แสงช่วงบ่ายกำลังสวย เลยขอถ่ายภาพสักรูปสองรูปทีระเบียงห้องพักหน่อย
และเราก็ไปเล่นน้ำ ชิวๆ ริมทรายหาดที่หน้าโรงแรมกันยาวๆ ไปจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน โรแมนติกมากๆ
**ที่นี่มีบุฟเฟ่ซีฟู้ดด้วยในตอนเย็นนะคะ แต่ว่าพอมืดหน่อยวันแรกฝนเทลงมา เลยไม่ได้เก็บภาพมาค่ะ
ในตอนเช้าก็มาทานอาหารกันง่ายๆ นิดหน่อย จริงๆ ไม่ได้เป็นคนกินน้อย แต่ต้องเก็บท้องไปเผื่อมื้อเที่ยงนิดนึง
และก็มาลุยกันต่อที่ครัวฆาราฑี ใกล้กับโรงแรมรามายณะ
อาหารที่เราทานกันคือ กุ้งซอสมะขาม ผัดฉ่าทะเล ปลากระพงราดน้ำปลา และโป๊ะแตกทะเล โดยส่วนตัวเราให้กุ้งซอสมะขามเป็นที่สุดของอันดับหนึ่งเลย สดมาก และอร่อยมาก วิดน้ำมะขามกันหมดจานเลย
เมนูของหวานลอดช่องที่ขึ้นชื่อของทางร้าน เมนูนี้พี่คิมปลื้ม
เอาล่ะ เข้ามาเช็คอินในโรงแรมต่อไป คือ The Dewa จะเป็นแนว tropical contemporary ให้ฟีลแบบอยู่เกาะจริงๆ เข้ามาถึงก็เจอมุมล็อบบี้ที่ตกแต่งด้วยปูนเปลือย ฮิปๆ สะอาดตา
เดินออกจากโซนล็อบบี้ก็จะเห็นห้องพัก และสระว่ายน้ำติดกันเลย อารมณ์ว่าเก็บกระเป็าเช็คอินเสร็จ ต้องโดดน้ำคลายร้อนเลย
และนี่คือห้องพักของเราคืนนี้ เป็นของ Deluxe นะคะ จำนวนห้องพักที่นี่จะน้อยกว่า Awa เยอะเลย เป็นสไตล์เงียบสงบ ชาวต่างชาติเยอะมากกว่าคนไทย สำหรับที่นี่ค่ะ
หลังจากเล่นน้ำทะเล/น้ำสระ เสร็จเรียบร้อย ก็พลาดไม่ได้กับการนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกที่เราชื่นชอบกัน ทริปนี้เอาสายไฟกับขวดแก้วมาเป็นพร็อพเล็กๆ น้อยๆ ถ่ายรูปเล่นกัน
อย่าทำให้เธอโกรธ 55
หลังจากนั้นก็ลุย บาร์บีคิว กันต่อในโรงแรมเลย
และตอนเช้าก่อนจะเช็คเอ้าท์ก็ขอมาทานกาแฟ เค้กกันสักนิด
โดยเมนูเค้ก คือ Lemon Cheese Cake และ ฺBlack forrest และเครื่องดื่ม คือ ice latte และ dewa ice tea with mint and strawberry ซึ่งห้ามพลาดเลยสำหรับ ice tea เพราะทานชาแบบมีเนื้อสตอเบอร์รี่ หอมมิ้นท์ สดชื่นมากๆ
จบทริปนี้กันไปกับเราสองคน lazycoup ก็ขอบคุณมากนะคะที่มาอ่านลุยยาวจนจบทริปเลย <3
