4 DAYS in KYOTO // Part IV :: Tofukuji Temple, Fushimi Inari

4 DAYS in KYOTO // Part IV :: Tofukuji Temple, Fushimi Inari

มาถึงแพลนเที่ยวเกียวโตวันสุดท้ายแล้ว ความสุขในการดูใบไม้เปลี่ยนสีผ่านไปไวจริงๆ เพื่อนๆ ที่เพิ่งมาเจอโพสนี้ ก้สามารถย้อนอ่านตามวันก่อนๆ ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ
4 DAYS in KYOTO // Part I :: Nanzenji & Eikando Temple
4 DAYS in KYOTO // Part II :: Arashiyama
4 DAYS in KYOTO // Part III :: Enkoji Temple, Genkoan Temple

4th day – South Kyoto :: Tofukuji Temple, Fushimi Inari

หลายวันที่เราอยู่ที่เกียวโตก็จะเห็นคนเช่าชุดกิโมโนถ่ายภาพกันเยอะมาก ก็เลยหันไปชวนพี่คิมว่า ใส่เล่นกันมั้ย? เมื่อพี่คิมตอบตกลง ก็ไปเช่าชุดกันตั้งแต่ร้านเปิดที่ https://kyotokimono-rental.com/en/ สำหรับเกรดกิโมโนที่นี่ก็มีหลายแบบมาก ของเราเลือกเป็น Premium Kimono Plan ทั้งชายและหญิง จองก่อนล่วงหน้าจาก 4500 เยน ลดเหลือ 3900 เยน สามารถใส่ได้ทั้งวันและมาคืนชุดตอนเย็นค่ะ

นอกจากนี้หนูก็จองคิวทำผมราคา 900 เยนไว้ (ในเว็บมีแบบทรงผมให้ลองกดเลือกดูเลย) ถามว่าเช่าชุดกิโมโนแล้วไม่ทำผมได้มั้ยสำหรับผู้หญิง เคยอ่านเจอมาแล้วว่าการปล่อยผมกระเซิง ค่อนข้างไม่เหมาะสมเท่าไหร่ค่ะ

พร้อมฝากกระเป๋าเดินทางอีก 1 ใบ เป็นใบใหญ่ ราคา ใบละ 500 เยน

สำหรับสาขาของร้าน wargo มีให้เลือกเยอะมาก แต่เราเลือกที่เกียวโตทาวเวอร์ เพราะ 1.เป็นสาขาใหญ่ มีจำนวนชุดให้เช่าได้ 2.วันนี้ตอนเย็นเราวางแผนนั่งใต้ดินไปนอนโอซาก้า ดังนั้นเราไม่อยากลำบากในการเดินทาง ขนกระเป๋าค่ะ 3.สถานที่เราจะไปติดใต้ดินหมดเลย

เอาล่ะ เมื่อเราเข้าไปถึงร้านประมาณ 9.00 ก็แจ้งชื่อตามที่เราจองไว้ค่ะ พนักงานก็เอากระเป๋าเดินทาง ของต่างๆ เก็บให้ หลังจากนั้นพี่พนักงานก็จะเดินมาแนะนำว่า ชุดเกรดแต่ละเกรดอยู่ตรงไหน เราจำเป็นต้องเลือกอะไรบ้าง (เสื้อผ้าของผู้ชายจะมี size ตามความสูง และของผู้หญิงเป็น freesize ) แต่แบบของผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิงเกินครึ่งเลย

พอเราเลือกเสร็จเรียบร้อย ก็เดินเข้าไปแยกห้องชายหญิง มีพี่ๆ จับเราแต่งตัวอย่างดี ออกมาก็ทำผม เลือกกระเป๋า และรองเท้ากันต่อค่ะ

กว่าจะเสร็จทั้งหมด จาก 9.00 ก็เกือบ 10.30 แล้ว (เราเลือกกันช้าด้วย ตื่นตาตื่นใจกับการใส่กิโมโนครั้งแรกอยู่) เราก็ตั้งใจไปที่วัด Tofukuji และ Fushimi Inari เดินเล่นชิวๆ กันมากกว่า

1.Tofukuji นั่ง JR nara line ลงสถานี Tofukuji (ชื่อเดียวกับวัด)
2.Fushimi Inari ก็ลงสถานีถัดไป คือ Inari ได้เลยค่ะ (แต่เราเดินจาก tofukuji มา เสาส้มน้า)
ภาพถ่ายวันที่ 22 พ.ย. 2017

ค่าเข้าชม 400 เยน สามารถเข้ามาที่วัดในช่วง 8:30-16:30 และเอาจริงๆว่า เนื่องจากวัดนี้มาง่ายมาก นักท่องเที่ยวจึงเยอะ ดังนั้นควรมาแต่เช้าเลย (แต่เร็วสุดของเราได้แค่นี้จริงๆ )

เดินเล่นสักพักก็เจอคนไทยที่ตั้งใจมาเที่ยวแต่งชุดกิโมโนเหมือนกัน ก็สลับช่วยกันถ่ายรูป และก็ขอน้องๆ ถ่ายรูปคู่ด้วย เพราะน้องๆ น่ารักมาก

มาขอโชว์ทรงผมรอบทิศให้ดูก่อนแล้วกันค่ะ

โชคดีว่าเรามาช่วงพีคพอดีเลย ถ้ามาช้ากว่านี้ก็คงร่วงไปเยอะเลย

และก็อย่าลืมเดินมาตรงจุดชมวิวนะคะ

และสถานที่สุดท้ายที่เราไปในเกียวโตก็คือ Fushimi Inari หรือ ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอก วัดเสาแดงที่คนไทยรู้จักกันดีอยู่แล้ว จริงๆ นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Inari ก็ได้นะคะ แต่เราเลือกที่จะเดินมาจาก Tofukuji เพราะดูจาก map แล้วเดินไม่ไกลกันมากเท่าไหร่ (เดินมาหลายวัน น่องขาแข็งแรงแล้ว 55 )

การถ่ายรูปในบริเวณเสาแดงนี่เป็นอะไรที่ยากมาก เพราะคนเยอะจริงๆค่ะ แต่นักท่องเที่ยวหลายๆคนเห็นเราถ่ายรูปก็หยุดรอให้ แถมบางคนช่วยกันคนให้เราด้วย (เราก็รีบถ่ายทำเวลากัน เพราะเกรงใจค่ะ) เป็นน้ำใจที่น่ารักมาก

ขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามมายาวๆ เที่ยวเล่นในเกียวโต 4 วันเต็มๆ นะคะ ถ้าชอบก็ช่วยกดไลค์ในเพจ www.fb.com/lazycoup เป็นกำลังใจให้กันด้วยน้า<3