15 Dec 4 DAYS in KYOTO // Part II :: Arashiyama
สำหรับทริปนี้ก็เป็นแพลนของวันที่สองของเรา #lazycoup ที่วางแพลนจะไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโตโดยเฉพาะ ใครที่พลาดรีวิวจากวันแรกก็สามารถย้อนเข้าไปดูได้ใน 4 DAYS in KYOTO // Part I :: Nanzenji & Eikando Temple ได้เลยน้า
2nd day – Western Kyoto :: Arashiyama (Kameyama Koen, Bamboo Forest, Togetsukyo Bridge, Senkoji temple, Tenryuji Temple)
จุดเด่นที่สวยงามของย่าน Western Kyoto ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เราขอยกความดีความชอบให้กับ Arashiyama มาก เพราะน้ำสีเขียวใส ตัดกับใบไม้แดง เป็นโทนสีที่สวยงามแปลกตา และย่านนี้ยังมีขายอาหาร กาแฟ ขนม ของฝากอีกหลายร้าน เหมาะสำหรับการมาเที่ยวถ่ายภาพ ได้ภาพสวยๆ และได้เดินเล่นทานอาหารตามสองข้างทางอย่างฟิน (แตกต่างกับวัด Nanzenji & Eikando ที่ไปมาวันแรกเลย ตรงนั้นแทบไม่มีของกินแน่ะ)
ขอแปะภาพจาก google map เพื่อให้เห็นแพลนการเดินเที่ยวในวันนี้นะคะ ที่ขีดเส้นแดงคือจุดสถานที่ทั้งหมด ที่เราเดินเล่นกันในวันนี้ เดินตามทางสีเขียวไปเรื่อยๆ เลยจากสถานี Saga-Arashiyama (จริงๆ ย่านนี้ยังมีวัด Jojakkoji อีกวัดที่น่าสนใจ แต่เราเดินเที่ยวกันไม่ทันจริงๆ อาจเพิ่มเติมเป็นอีกช้อยให้เที่ยวกันนะคะ)
เมื่อออกมาจากสถานี Saga-arashiyama เราก็เดินเล่นกันไปเรื่อยๆ เป็นเส้นตรงยาวเพื่อมาข้ามสะพาน Togetsukyo และเดินเล่นถ่ายภาพเลียบแม่น้ำมาเรื่อยๆ เพื่อเข้าไปยังวัด Senkoji หากใครอยากพายเรือเล่น เราว่าก็เป็นกิจกรรมที่น่ารักดีเหมือนกัน
เราสามารถเดินเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ จนถึงวัด senkoji และเห็นวิวเรือได้เรื่อยๆ
ทางเดินก็ขึ้นเขานิดนึงนะคะ มีไม้เท้าให้ใช้ด้วย เผื่อใครไม่ไหว (เราก็ใช้ 55)
สำหรับวัด Senkoji ค่าเข้า 400เยน เปิดตั้งแต่ 9.00-16.00 เป็นวัดที่อยู่บนภูเขา เดินไปตามทางเรื่อยๆ ก็จะถึงวัด เป็นวัดที่เล็กมาก มีพระ และคนดูแล เราก็ขอเข้าไปถ่ายรูป เก็บบรรยากาศของวัดสักหน่อย โดยส่วนตัวก็ชอบที่นี่ เพราะว่าคนน้อย เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย มีชีทเกี่ยวกับศาสนาหลากหลายภาษา ไปจนถึงหนังสือรวมภาพถ่ายเชิงประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นให้เราดูด้วย หรือใครชอบดูวิว ก็มีกล้องส่องทางไกลทางส่องแล้วเห็นเมืองหลังภูเขาได้เลย
ก็แอบมองเห็นฝั่งตรงข้ามที่เป็นจุดชมวิวของสวน Kameyama-koen
หลังจากออกจากตรงบริเวณวัดเราก็ตั้งใจเดินหาขนมของกินทานพักเบรกก่อน มีหลายร้านให้เลือกเลยค่ะ เมื่อเข้าไปในส่วนของละแวกพื้นที่ร้านอาหาร ก็จะเจอฝาท่อเยอะมาก ซึ่งฝาท่อที่ญี่ปุ่นน่ารักดีนะ มีใครชอบถ่ายฝาท่อเหมือนกันบ้าง
เข้ามาโซนร้านค้า เจอกลุ่มเด็กนักเรียนญี่ปุ่นใสๆ น่ารักดี เลยขอไปเนียนกับเค้าบ้าง พอไหวอยู่มั้ย 55
แถมยังบังเอิญเจอ พี่หน่อยพี่เอ ผู้ร่วมทริปโบรโม่ของเราเมื่อเดือน 7 ใส่ชุดกิโมโน่เล่นในย่าน arashiyama ด้วย ใครอยากหาใส่เล่นย่านนี้ มีร้านเช่าเยอะนะคะ ง่ายเลย
อีกจุดคือ Bamboo Forest สำหรับป่าไผ่ครั้งนี้ เรามาเดินเล่นชิวๆ มากกว่า เพราะเราตั้งใจมาเก็บภาพใบไม้เปลี่ยนสีมากสุด สำหรับใครที่เดินเยอะแล้วเมื่อย แต่อยากเที่ยวอยู่ ก็ให้หนุ่มญี่ปุ่นลากได้เลยจ้า
ซึ่งบรรยากาศตรงป่าไผ่ที่ประทับใจ คือ เจอนักดนตรีคนนึงชื่อ Cojicose และวงเค้าคือ Coala brand มาเล่นเครื่องดนตรีทรงกลมเสียงหวาน ทำให้ป่าไผ่กลายเป็นถนนสายดนตรีไปเลย ชอบจนขอซื้อแผ่นซีดีเก็บกลับมาฟังที่บ้าน
และพิกัดต่อไปคือ วัด Tenryuji กัน ที่นี่เป็นวัดมรดกโลก เปิด 8.30-17.00 ค่าเข้าสวน 500 เยน เดินเข้าไม่ลึกมากก็จะเจอเวิ้งน้ำที่เห็นเงาสะท้อนของใบไม้เปลี่ยนสี สวยงามมาก
วัดนี้อยู่ในโซนป่าไผ่เลยนะคะ
และเมื่อแสงเย็นเริ่มมาถึงเราก็เดินไปที่สวน Kameyama-koen เพื่อขึ้นจุดชมวิวที่นี่ ต้องเผื่อเวลาไว้นิดนึงนะคะ เพราะว่าเดินไกลอยู่เหมือนกันน้า โดยเมื่อเดินมาถึงสวนก็มองหาป้ายที่เขียนว่า observation deck เป็นทางไปดูจุดชมวิวนั่นเอง
จุดชมวิวที่นี่สวยมาก มองเห็นแสงยามเย็น กับวิวภูเขา บ้าน และเรือที่ผ่านไปมาตลอด และยังเห็นวัด senkoji ที่เราไปมาเมื่อตอนเช้าด้วย
จบสำหรับวันที่ 2 ของเราสองคนที่เกียวโต รอติดตามอ่านตอนต่อไปกันด้วยนะคะ ^^